นักวิทยาศาสตร์พบ “แกนน้ำแข็ง.อายุ 1.2 ล้านปี จากใต้ทวีปแอนตาร์กติกา

นักวิทยาศาสตร์จากโครงการ Beyond EPICA - Oldest Ice ซึ่งได้รับทุนจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ในการค้นหาน้ำแข็งที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก ประสบความสำเร็จในการเจาะและดึงแกนน้ำแข็ง ความยาว 2,800 เมตร ขึ้นมาจากความลึกในบริเวณที่แผ่นน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกที่มาบรรจบกับชั้นหินฐาน ถือเป็นความสำเร็จอันน่าทึ่งที่จะเปิดเผยให้เห็นถึงบันทึกข้อมูลสภาพภูมิอากาศของโลกที่มีอายุเก่าแก่ย้อนกลับไปอย่างน้อย 1.2 ล้านปี

สำหรับแกนน้ำแข็ง ความยาว 2,800 เมตร นี้ ได้มาจากสถานที่ขุดเจาะอันห่างไกลในทวีปแอนตาร์กติกาที่เรียกว่า "โดมซีน้อย" หรือ "ลิตเติ้ลโดมซี" (Little Dome Cฉ ซึ่งอยู่บริเวณสันเขาสูงห่างจากโดมคอนคอร์เดีย สถานีวิจัยของฝรั่งเศสและอิตาลีไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 40 กิโลเมตร โดยนักวิจัยได้ใช้เทคโนโลยีการหยั่งความลึกด้วยคลื่นเสียงสะท้อนที่ทันสมัยและการสร้างแบบจำลองการไหลของน้ำแข็งในการระบุตำแหน่งที่ถูกต้องของแกนน้ำแข็งโบราณดังกล่าว

แฟรงก์ วิลเฮล์มส” (Frank Wilhelms) นักวิจัยหลักในสาขานี้และศาสตราจารย์ร่วมที่มหาวิทยาลัย Göttingen University และสถาบัน Alfred Wegener Institute ระบุว่า ทีมงานพบบันทึกสภาพภูมิอากาศจากแกนน้ำแข็งเก่าแก่ที่คาดการณ์ว่ามีอายุ 0.8 – 1.2 ล้านปีก่อน โดยตรงกับที่คาดการณ์ไว้ ในระดับความลึกที่ระหว่าง 2,426 ถึง 2,490 เมตร ซึ่งขยายออกไปตามแนวแกนน้ำแข็งในแอนตาร์กติกาเดิมที่เคยถูกขุดเจาะขึ้นมาเมื่อ 20 ปีก่อนหน้านี้

ทวีปแอนตาร์กติกาปกคลุมด้วยแผ่นน้ำแข็งที่หนามากบนชั้นหินฐานของทวีป และการสำรวจครั้งล่าสุดโดย Beyond EPICA ได้เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนระหว่างชั้นน้ำแข็งและชั้นหิน ซึ่งอาจทำให้นักวิจัยได้รับเบาะแสที่สำคัญเกี่ยวกับอดีตและความเป็นมาของดาวเคราะห์โลก

นอกจากนี้แกนน้ำแข็งยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบันทึกข้อมูลของสภาพภูมิอากาศโลกได้ เนื่องจากแกนน้ำแข็งแต่ละชั้นจะกักเก็บก๊าซในชั้นบรรยากาศ ฝุ่นและองค์ประกอบของไอโซโทปไว้นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่ก่อตัว ซึ่งช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถอนุมานสภาวะการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตได้

ด้าน “จูเลียน เวสต์ฮอฟฟ์” (Julien Westhoff) หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ภาคสนามและนักวิจัยหลังปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์เบื้องต้นของแกนน้ำแข็งที่ลิตเติ้ลโดมซีพบข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่า จุดสูงสุดที่ระดับ 2,480 เมตร มีบันทึกข้อมูลสภาพอากาศที่ย้อนกลับไปถึง 1.2 ล้านปี ในบันทึกที่มีความละเอียดสูงที่ถูกกดทับนานถึง 13,000 ปีจนกลายเป็นน้ำแข็งแต่ละเมตร และเป็นการเก็บบันทึกชั้นเยี่ยมของสภาพภูมิอากาศในแต่ละช่วง

การได้มาซึ่งตัวอย่างจากแกนน้ำแข็งเรียกได้ว่าเป็นงานช้างที่รอนักวิจัยอยู่ข้างหน้า แม้โดยรวมแล้ว ทีมงานจะทำงานเป็นเวลานานกว่า 200 วันในพื้นที่ทางตอนกลางของที่ราบสูงแอนตาร์กติกที่ระดับความสูง 3,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูร้อนอยู่ที่ -35 องศาเซลเซียส

ปัจจุบัน โครงการ Beyond EPICA - Oldest Ice ได้รับมอบหมายให้ส่งตัวอย่างแกนน้ำแข็งกลับไปยังห้องปฏิบัติการ เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ดำเนินการศึกษาบันทึกสภาพภูมิอากาศจากแกนน้ำแข็งดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม

“บีย็องกี ฟาซานี” (Bianchi Fasani) นักวิจัยอาวุโสของหน่วยงานแห่งชาติด้านเทคโนโลยีใหม่ พลังงานและการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน – หน่วยเทคนิคในแอนตาร์กติกา (ENEA-UTA) และหัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์ของ Beyond EPICA เปิดเผยว่า เรือตัดน้ำแข็ง Laura Bassi จะทำหน้าที่ลำเลียงแกนน้ำแข็งล้ำค่าที่ขุดเจาะขึ้นมาได้จากแผ่นน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกา โดยรักษาอุณหภูมิของห่วงโซ่ความเย็นไว้ที่ -50 องศาเซลเซียส ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญของโครงการในการขนส่งแกนน้ำแข็งดังกล่าวกลับไปศึกษาในยุโรปด้วย

ที่มา: IFL Science

https://www.iflscience.com/scientists-uncover-12-million-year-old-ice-from-antarcticas-depths-77570

CREDIT ภาพ: PNRA, IPEV

https://youtu.be/s8koU5BZBK8?si=Q7q27JBHjYz3VOgN

https://youtu.be/6ClOjhitNAQ?si=_Ugqz5wQJ3ti6bvD

CREDIT คลิป: BeyondEPICA

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ภูเขาน้ำแข็งใหญ่ที่สุดในโลก A23a ใหญ่กว่ากรุงเทพฯ 2 เท่า เคลื่อนตัวอีกครั้ง

• จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าอีก 3 ปีข้างหน้า ไม่เหลือน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติก

• นักวิทย์หาวิธีชะลอการละลายของ "ธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก" ก่อนโลกจบสิ้นจริงๆ