อีกไม่กี่วันก็จะหมดเดือนมกราคม Spring ชวนรู้จัก "Veganuary" เทรนด์ว่าด้วยเรื่องการไม่บริโภคเนื้อสัตว์ในเดือนมกราคม ที่กำลังเพิ่มความนิยมขึ้นทุกปีในสหราชอาณาจักร ไอเดียเป็นอย่างไร และดีต่อโลกอย่างไร ติดตามได้ที่บทความนี้
“Veganuary” เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรในประเทศอังกฤษ เกิดจากการรวมของคำศัพท์สองคำได้แก่ Vegan + January โดยมีภารกิจหลักคือ ผลักดันส่งเสริมให้คนหันมาบริโภคมังสวิรัติกันมากขึ้นในช่วงเดือนมกราคม
โครงการ “Veganuary” เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ในช่วงแรกอาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไรนัก บวกกับกระแสการทานมังสวิรัติในเวลานั้นยังไม่บูมมากในวงกว้าง ทำให้มีชาวผู้ดีตบปากเข้าร่วมการกินมังสวิรัติในเดือนมกราคมเพียง 1,280 คน ทว่าแนวโน้มของผู้ที่สนใจและเข้าร่วมก็เพิ่มมากขึ้นจนแตะหลายแสนคน
จำนวนผู้เข้าร่วม Veganuary ตั้งแต่ปี 2015 – 2023
นี่เป็นเพียงตัวเลขผู้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ Veganuary เท่านั้น จะเห็นได้ว่าตัวเลขผู้เข้าร่วมเพิ่มจากปีก่อนหน้าหนึ่งเท่าแทบทุกปี ซึ่งสะท้อนว่าแดนผู้ดีให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารมังสวิรัติกันเป็นอย่างดีเยี่ยม
หลังจากผ่านมาหลายปี องค์กรนี้เป็นที่ฮ็อตฮิตในหมู่คนดังระดับโลกมากมายที่สนใจเทรนด์การกินอาหารมังสวิรัติ อาทิ “วาคิน ฟีนิกซ์” (Joaquin Phoenix) นักแสดงดีกรีระดับออสการ์ “เดโบราห์ มีเดน” (Deborah Meaden) นักผลิตรายการทีวีชื่อจากช่องบีบีซี หรือ “คริส แพ็คแฮม” (Christ Packham) พิธีชาวอังกฤษชื่อดังก็มาร่วมสายกรีนกับเขาด้วย
ทางองค์กรอธิบายว่ามี 2 ประการหลัก ๆ ที่พวกยึดถือ ประการแรก คืออาศัยใช้ช่วงเวลาปีใหม่ ที่ทุกคนกำลังตื่นเต้น ฮอร์โมนหลั่ง หรือกำลังรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของอะไรบางอย่างที่กำลังมาถึง ให้ใช้โอกาสนี้ชักชวนคนให้หันมาเปิดใจทดลองปรับเปลี่ยนเมนูอาหารเป็นมังสวิรัติเพื่อที่จะได้ดีต่อสุขภาพ
ประการที่สองคือ ใช้การทานมังสวิรัติสร้างคอมมูนิตี้ ในความหายคือ เมื่อเกิดการรวมกลุ่มกันของชาวกินผัก ต่างคนจะแลกเปลี่ยนทัศนะ บางคนบ้านใกล้กันแต่ไม่เคยคุยกันมาก่อน จนหันมาสนิทกันมากขึ้น โดยมีการกินมังสวิรัติฉาบเคลือบไว้อยู่แบบบาง ๆ ในระดับที่เป็นธรรมชาติ
ขยักแรกก่อนเลยคือ เมื่อองค์กร Veganuary ไถ่ถามไปยังผู้ที่จะเตรียมตัวเข้าร่วมโครงการว่าอะไรคือแรงจูงใจให้สมัครโครงการนี้ มี 40% บอกว่าเป็นห่วงสวัสดิภาพของสัตว์ 21% แคร์สุขภาพตัวเอง และ 18% ตอบว่าต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ขยักที่สอง ข้อมูลจาก Veganuary ระบุว่า อัตราการบริโภคเนื้อสัตว์ต่อหัวของชาวอังกฤษลดลง 17% นับตั้งแต่ปี 2551 – 2562 ขณะเดียวกันยอดขายผักหรืออาหารมังสวิรัติก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ซึ่งข้อมูลในรายละเอียดทางองค์กรวิเคราะห์ออกมาว่า ส่วนใหญ่คนซีเรียสกับเรื่องการทารุณกรรมสัตว์ (ทุกชนิด)
การบริโภคเนื้อสัตว์มีเส้นความสัมพันธ์กับชีวิตมนุษย์ประหนึ่งว่าเป็นยาเสพติด นอกเหนือจากจะเป็นวัตถุดิบที่เลิศรสแล้ว ยังมีคุณค่าสารอาหารที่ร่างกายมนุษย์ต้องการ แต่ขณะเดียวกัน ก็มีสัตว์อีกจำนวนมากที่ต้องสังเวยเนื้อชั้นเยี่ยมของตัวเองและลงไปนอนเป็นอาหารเนื้อแดงบนจานสีขาวสะอาดเอี่ยมอ่อง
นี่ยังไม่พูดถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากกระบวนการผลิต และการเพราะเลี้ยงอีกนะ ที่ข้อมูลจาก FAO ระบุว่าการผลิตปศุสัตว์ปล่อยก๊าซคาร์บอนราว 8.1 กิกะตัน หรือคิดเป็น 15.6% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก
ที่มา: The Conversation
ข่าวที่เกี่ยวข้อง