กทม. ขอความร่วมมือสื่อ ช่วยรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ให้ประชาชนรับมือได้
อัปเดตแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ของกทม. ล่าสุดขอความร่วมมือสื่อทุกช่องทาง รายงานสถานการณ์ฝุ่นในช่วงของการพยากรณ์อากาศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่าย
เพื่อให้การรับรู้ปัญหา PM2.5 เข้าถึงคนกรุงฯ กทม.จึงได้พัฒนาช่องทางสื่อสารและการแจ้งเตือนเรื่องฝุ่น PM2.5 ไปสู่ประชาชนผ่านสื่อมวลชนในช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปรับพฤติกรรม สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง
โดยกทม. ขอความร่วมมือสื่อมวลชนเพิ่มช่องทางเผยแพร่ความรู้ด้านฝุ่น PM2.5 ในช่วงพยากรณ์อากาศ เช่น การเสริมการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ 3-7 วันข้างหน้า แนวโน้มการระบายอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ สรุปจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ผลการตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น จำนวนผู้ป่วย วิธีการดุแลตัวเอง แนวทางการรักษาสุขภาพ ข่าวสารนโยบาย-มาตรการลดฝุ่น ข้อร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue และการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ กทม.ยังเปิดกลุ่มไลน์ “ห้องข่าวฝุ่น PM2.5 BMA” เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารระหว่าง กทม. กับ สื่อมวลชน ในเรื่องของฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะ ให้สื่อมวลชนสามารถเผยแพร่ข่าวสารและความรู้ไปสู่ประชาชนได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว ยิ่งขึ้น
อัปเดตการแก้ไขปัญหา PM2.5 ของกทม.
ปัจจุบันสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพมหานครและประเทศไทยมีแนวโน้มอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน กทม.จึงมีการดำเนินการแก้ปัญหาเชิงรุก โดยแบ่งสาเหตุหลักออกเป็น 3 สาเหตุคือ
- ยานพาหนะหรือรถยนต์
- การเผาในที่โล่ง
- ภาคอุตสาหกรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยานพาหนะหรือรถยนต์ นี่คือปัจจัยใหญ่ ต้นเหตุฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ กทม.จึงจัดการเชิงรุกด้วยการเข้าไปตรวจในไซต์ก่อสร้าง นอกจากตรวจฝุ่นจากสถานที่ก่อสร้างแล้วยังตรวจควันดำของยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งด้วย หากพบค่าเกินมาตรฐานจะมีการเตือน 2 ครั้ง แต่หากไม่แก้ไข จะมีการยึดใบอนุญาตก่อสร้างทันที
นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือจากบริษัทน้ำมันและค่ายรถยนต์ประมาณ 16 ราย จัดทำโปรโมชันเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องในราคาถูก ไม่กระทบต่อรายได้ของประชาชนและผู้ประกอบการ
การเผาในที่โล่ง กทม.ส่งเสริมในเรื่องของรถบีบอัดฟางที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้เกษตรกรลดการเผาฟางและนำฟางไปจำหน่าย สร้างรายได้ให้เกษตรกร ซึ่งดำเนินการแล้วในเขตฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ และขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ กวดขันเข้มข้น ในการเผาชีวมวลของเกษตรกรในที่โล่ง ส่วนการเผาที่โล่งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ รัฐบาลจะประสานให้เกิดความร่วมมือต่อไป
