สื่อต่างประเทศรายงาน กระแสลมอุ่นพัดเข้าสู่บริเวณรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิ ทำให้หิมะบนยอดภูเขาไฟฟูจิละลาย มีข้อสันนิษฐานว่า อากาษที่ร้อนนานขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลกระทบให้หิมะละลาย และยังกระทบถึงภาคธุรกิจอีกด้วย
หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับภูเขาไฟฟูจิ หลังคนตบเท้าเข้าไปหวังถ่ายรูปโดยหวังให้มีภูเขาไฟฟูจิตั้งตระหง่านอยู่ฉากหลัง แต่ดูเหมือนเสน่ห์บางอย่างกำลังขาดหายไปเพราะ มีการรายงานว่า หิมะบนยอดภูเขาไฟฟูจิละลายหายไปหมด ทั้ง ๆ ที่นี่กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว
ไม่รอช้า กรมอุตุฯ ญี่ปุ่นได้ออกมาให้ข้อมูลว่า เหตุที่หิมะบนยอดภูเขาไฟฟูจิละลายนั้นคือ สภาพอากาศที่อบอุ่นผิดปกติในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
ทางด้านฝั่งตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น อุณหภูมิจะสูงกว่าปกติตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป เนื่องจากมีกระแสลมอุ่นพัดผ่านมา ทำให้เมื่อวันพุธ (8 พ.ย. 66) ที่ผ่านมา กรุงโตเกียวมีอุณหภูมิสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน กว่าทุก ๆ เมือง นับตั้งแต่ปี 1923
เมื่อมองไปบนยอดเขาแล้วไม่พบหิมะ ทำให้คนต่างตั้งข้อสงสัยไปว่า ภูเขาไฟฟูจิกำลังจะประทุหรือเปล่า ทำไมน้ำหิมะถึงละลาย ต้องบอกแบบนี้ว่าการที่หิมะบนยอดภูเขาไฟฟูจิละลายไม่ได้เชื่อมโยงกับการที่ภูเขาไฟจะระเบิดแต่อย่างใด
ปี 1707 หรือ 300 กว่าปีที่แล้วคือ ครั้งสุดท้ายที่ภูเขาไฟฟูจิปะทุออกมาให้คนในระแวกได้ยลโฉมแสงสีแดงที่คุกรุ่นมานานหลายทศวรรษ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ดูเหมือนว่าหิมะบนยอดภูเขาไฟฟูจิละลายนั้น เราอยู่ไกลจนมองไม่เห็นว่าภูเขาไฟฟูจิยังพอมีหิมะอยู่เท่านั้นเอง บนยอดเขายังมีหิมะอยู่ แต่มีในปริมาณที่น้อยมาก
โดยมีคนสันนิษฐานว่า ‘เกิดจากกระแสลม’ หิมะจะไม่จับตัวกันในบริเวณภูเขาที่มีกระแสลมพัดแรง แต่จะไปจับตัวกันในฝั่งบริเวณฝั่งที่มีกระแสลมเบาแทน ไม่แน่ว่าจุดถ่ายรูปรอบ ๆ ภูเขาไฟที่นักท่องเที่ยวถ่ายรูปมาได้ อาจจะทำให้ไม่เห็นหิมะ หรือบางทีหิมะมันก็อาจจะแค่ไม่ได้ขาวโพลนแบบที่คาดหวังเท่านั้นเอง
การที่หิมะบนภูเขาไฟฟูจิละลายเพราะอุณหภูมิในระแวกสูงขึ้นนั้น มิเพียงส่งผลต่อความคาดหวังของผู้ชมเท่านั้น แต่ในภาคธุรกิจที่ต้องพึ่งพาปัจจัยสำคัญอย่างสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่าง สกีรีสอร์ทก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย
มีการรายงานว่า สกีรีสอร์ทในจังหวัดนากาโน่มีแผนที่จะเปิดลานสกีในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากหิมะเทียมที่พวกเขาสร้างขึ้นละลายเพราะมีอุณหภูมิที่สูงเกินไป
“หากอุณหภูมิต่ำลงกว่านี้ เราก็จะกลับมาเปิดสกีรีสอร์ทได้เหมือนเดิม ก็ขอให้ทุกท่านใจเย็น ๆ” เจ้าหน้าที่ของสกีรีสอร์ทคนหนึ่ง กล่าว
นอกจากนี้ อุณหภูมิที่สูงยังทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีที่เมืองโตเกียว ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ผู้คนผ่านไปผ่านมาสังเกตได้ง่ายนั้นดูแปลกตาไป อันเนื่องมาจากอุณหภูมิที่ไม่เป็นไปตามฤดูกาล
หรือสวนอุเมะโคจิในเมืองเกียวโต ต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นประมาณ 300 ต้น ที่เป็นจุดสำคัญที่ชาวพื้นเมืองญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งนั่งท่องเที่ยวตบเท้ากันไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามวิจิตรดั่งภาพวาด
แต่เหมือนปีนี้ ต้องผิดหวังไปตาม ๆ กัน เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานแจ้งว่า กิ่งของต้นเมเปิ้ลบางกิ่งต้องแห้งเหือดไปเนื่องจากคลื่นความร้อนและขาดน้ำฝนมาหล่อเลี้ยงลำต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น การติดตามสถานการณ์การละลายของหิมะบนยอดภูเขาไฟฟูจิยังดำเนินไปอย่างใกล้ชิด แต่ต้องเรียนให้ทราบว่า น้ำแข็งบนภูเขาไฟฟูจินั้นละลายอยู่ทุกปี การปะทุของภูเขาไฟนั้นเป็นไปได้ยาก หากเราเทียบกับข้อมูลในปีที่ผ่าน ๆ มา
ที่มา: NHK
เนื้อหาที่น่าสนใจ