SHORT CUT
แอ่งนันไก (Nankai Trough) เป็นร่องน้ำลึกทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ต้นตอแผ่นดินไหว จะเกิดทุก ๆ 100-200 ปี ญี่ปุ่น ปรับแผนรับมือครั้งแรกในรอบ 10 ปี อาจมีผู้เสียชีวิต 3 แสนราย
ล่าสุด ทางการญี่ปุ่น เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับ “ผลกระทบแผ่นดินไหวบริเวณแอ่งนันไก” ซึ่งเป็นการอัปเดตข้อมูลในรอบ 10 ปี แม้ยังไม่มีสัญญาณของแผ่นดินไหวในเร็ววันนี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังจากที่ข่าวคราวออกมา สร้างความประหวั่นใจให้กับชาวญี่ปุ่น รวมถึงนักท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย
SPRiNG พาไปทำความรู้จัก “แอ่งนันไก” อยู่บริเวณไหนของญี่ปุ่น ก่อให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างไร เกิดครั้งล่าสุดเมื่อไร และชวนหาคำตอบว่าแผ่นดินไหวบริเวณแอ่งนันไกจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้หรือไม่
แอ่งนันไก หรือ Nankai Trough คือร่องน้ำลึกรูปตัว U มีความลึกประมาณ 4,000 เมตร ตั้งอยู่ทางใต้ของนันไกโด (Nankaido region) หรือภูมิภาคทะเลใต้บนนเกาะฮอนชูของญี่ปุ่น ทอดตัวออกไปห่างจากชายฝั่งประมาณ 900 กิโลเมตร
บริเวณนี้เอง เป็นที่ตั้งของรอยเลื่อนสำคัญชื่อ นันไกเมกะทรัสต์ (Nankai megathrust) ข้อมูลทางธรณีวิทยาระบุว่า รอยเลื่อนดังกล่าวเป็นแนวมุดตัวหลักของแผ่นเปลือกโลก ฟิลิปปินส์ ที่เคลื่อนเข้าไปใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย ในอัตราความเร็ว 3-5 เซนติเมตร/ปี
นอกจากนี้ นันไกเมกะทรัสต์ มีลักษณะเป็นรอยเลื่อนย้อนมุมต่ำ (Thrust Fault) กล่าวคือ ทำมุมชันน้อยกว่า 45 องศา ซึ่งจัดเป็นประเภทรอยเลื่อนอันตราย ที่ก่อให้เกิดแผ่นดินไหว ที่มีขนาดใหญ่มากกว่ากว่า 8.0 ขึ้นไป และก่อให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ขึ้นมาได้
ข้อมูลระบุว่า แผ่นดินไหวในแอ่งนันไกเกิดขึ้นครั้งแรก (ที่มีการบันทึก) เมื่อปี 684 แต่ในปัจจุบัน มีการคาดการณ์ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณแอ่งนันไก ขนาด 8 ในทุก ๆ 100-200 ปี
โดยทำเลที่คาดว่าจะเกิดคือ บริเวณอ่าวซูรูงะในจังหวัดชิซูโอกะ และทะเลฮีวงะในเกาะคิวชู แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน เรายังไม่สามารถคาดเดาเวลาที่แน่นอนได้ โดยครั้งล่าสุดที่เกิดแผ่นดินไหวคือเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 1946
ดังนั้น ยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ แต่ถ้าพลิกไปดูข้อมูลจากงานวิจัย ซึ่งระบุว่า มีโอกาสมากถึง 60% ที่บริเวณแอ่งนันไกจะเกิดแผ่นดินไหวในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยทีมนักวิจัยคำนวณความน่าจะเป็นไว้ตรงกับวันที่ 1 มกราคม (ไม่ระบุปี)
ข้อมูลล่าสุดจากทางการญี่ปุ่น ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันจันทร์ (31 มี.ค. 68) ที่ผ่านมา ระบุไว้อย่างละเอียด ดังนี้ จำนวนผู้อพยพจะเพิ่มขึ้นจากการประมาณเมื่อปี 2555 ที่ 9.5 ล้านคน เป็น 12.3 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณ 10% ของประชากรในญี่ปุ่น
เท่านั้นยังไม่พอ เทศบาลทั้งหมด 764 แห่งใน 31 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัด จะประสบกับแผ่นดินไหว ซึ่งมีระดับความรุนแรงอย่างน้อยระดับ 6 ชินโดะ ตามมาตราวัดของญี่ปุ่น ซึ่งระดับสูงสุดอยู่ที่ 7 หรือคลื่นสึนามิสูงอย่างน้อย 3 เมตร
สำหรับความสูญเสียทางเศรษฐกิจคาดว่าจะสูงถึง 270 ล้านล้านเยน (ราว 61 ล้านล้านบาท) โดยเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดิมที่ 214 ล้านล้านเยน (ราว 48 ล้านล้านบาท) ขณะที่จำนวนอาคารสูงสุด ซึ่งคาดว่าจะถูกทำลายจนหมดสิ้น
ในกรณีผู้เสียชีวิต ทางการญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า จะมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 215,000 ราย จากสึนามิซึ่งเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหว โดยอ้างอิงตามสมมุติฐานว่า จะมีเพียง 20% ของประชากรที่จะอพยพทันที
ทั้งนี้ หากอัตราการอพยพเพิ่มเป็น 70% จะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากสึนามิลงเหลือ 94,000 ราย ส่วนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมอย่างน้อย 30 เซนติเมตร เพิ่มขึ้น 30% เนื่องจากความก้าวหน้าในการวิเคราะห์ข้อมูลภูมิประเทศ
จากสถานการณ์จำลองแผ่นดินไหวระดับ 9 แมกนิจูด ในคืนฤดูหนาว จะส่งผลให้เกิดความเสียหายรุนแรงในภูมิภาคโทไก โดยยอดผู้เสียชีวิตสูงที่สุดจะมาจากจังหวัดชิซูโอกะ 101,000 ราย จังหวัดมิยาซากิ 33,000 ราย และจังหวัดมิเอะ 29,000 ราย
ที่มา: Financial Times
ข่าวที่เกี่ยวข้อง