svasdssvasds

จับตา ! “Climate Tech” สหรัฐฯ ไตรมาสแรก ถูกยกเลิกการลงทุน 16 โครงการ

จับตา ! “Climate Tech” สหรัฐฯ  ไตรมาสแรก ถูกยกเลิกการลงทุน 16 โครงการ

Climate Tech ในสหรัฐฯ เจอสัญญาณไม่ดี ยกเลิกเงินสนับสนุนพลังงานสะอาด ทำให้ 16 โครงการมูลค่า 2.6 แสนล้านบาทถูกยกเลิก นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น หวั่นทิศทางนโยบายในอนาคต

นิตยสาร MIT Technology Review เปิดเผยว่า หลังผ่านช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 บริษัท Climate Tech ในสหรัฐอเมริกา ยกเลิกโปรเจกต์สำคัญ ๆ ไปแล้ว 16 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.6 แสนล้านบาท

Credit Reuters

นี่เป็นผลต่อเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลกลางที่ลดระดับความสำคัญของพลังงานสะอาด และหันไปสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงยกเลิกเงินสนับสนุนที่เป็นผลจากกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อ ที่มีมาตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน

เจย์ เทอร์เนอร์ (Jay Turner) ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาสิ่งแวดล้อมจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซต (MIT) เผยว่า “ความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด ทำให้โครงการจำนวนมากถูกยกเลิก หรือถูกระงับไว้”

อเมริกันเปลี่ยนยุค Climate Tech ล้นตลาด เข้าสู่ยุคปรับสมดุล

หากใครจำกันได้ ปี 2022 สหรัฐฯ ประกาศใช้กฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อ (The Inflation Reduction Act) มูลค่า 4.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับวิกฤตโลกรวนด้วยการสร้างแรงจูงใจทางการเงิน

โดยรัฐบาลผลักดันให้ผู้ประกอบการสหรัฐฯ นั้น ลด ละ เลิก ใช้พลังงานฟอสซิล แล้วจูงใจภาคธุรกิจกับประชาชนด้วยการมอบเครดิตภาษีให้แทน อาทิ มอบเครดิตภาษี 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ ให้ชาวอเมริกันที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ผู้ที่ต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐถึง 30% เป็นต้น

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยของอดีตประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ซึ่งถือเป็นยุคเฟื่องฟูของพลังงานสะอาด เกิดการลงทุนระดับเมกะโปรเจกต์หลายโครงการ แต่ในยุคสมัยของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่งต้องการจูงใจอเมริกาให้กลับไปใช้พลังงานฟอสซิล โปรเจกต์พลังงานสะอาดจึงเกิดความเสี่ยงทันที

Credit Reuters

บริษัทต่าง ๆ ประเมินความเสี่ยงแล้ว จึงตัดสินใจล้มเลิก หรือชะลอโครงการด้าน Climate Tech เอาไว้ก่อน และในไตรมาสแรกของปี 2025 มีการล้มเลิกไปแล้ว 16 โปรเจกต์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 7.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.6 แสนล้านบาท

มีหลายเคสที่ได้รับสัญญาเงินกู้จากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ แล้วถูกยกเลิกแล้ว อาทิ โรงงานผลิตวัสดุป้องกันไฟไหม้ในแบตเตอรี่ในรัฐจอร์เจียของบริษัท Aspen Aerogels มูลค่า 670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โรงงานผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนของบริษัท Bosch มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของบริษัท Freyr Battery มูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น

และถ้าย้อนไปตั้งแต่มีการประกาศใช้กฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อ ในปี 2022 E2 กลุ่มนักลงทุน นักธุรกิจ ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด รายงานว่า มีโครงการด้าน Climate Tech ถูกยกเลิกไปแล้ว 34 โครงการ (ระดับเมกะโปรเจกต์)  มีคนตกงานทันที 15,000 ตำแหน่ง คิดเป็นมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

สมัยสองของ โดนัลด์ ทรัมป์ จุดยืนชัด ! ไม่สนับสนุนโครงการแก้วิกฤตสภาพอากาศ

ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มแผนโจมตีกฎหมาย แผนงาน หรือมาตรการด้านสภาพอากาศ และพลังงานสะอาดทันที โดย Sabin Center For Climate Change Law แห่งมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย เผยว่า ฝ่ายบริหารยกเลิกไปแล้วกว่า 50 โครงการ

Credit Reuters

โดยมีเป้าหมายใหญ่ที่สุดคือ กฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อ หรือ The Inflation Reduction Act ซึ่งเห็นชัดแล้วว่าฝ่ายบริหารของทรัมป์ระงับการให้เงินทุนทันที ทิศทาง ทัศนคติ หรือนโยบายของทรัมป์ จึงสร้างความไม่แน่นอนต่ออุตสาหกรรมพลังงานสะอาดอย่างใหญ่หลวง

สุดท้ายนี้ ผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐอเมริกาชวนจับตาว่า รัฐบาลสมัยที่สองของโดนัลด์ ทรัมป์จะถอนเงินกองนี้ไปมากแค่ไหน แต่โจทย์ยากพอสมควรเนื่องจากเงินก้อนนี้ได้รับการอนุมัติผ่านกลไกรัฐสภา ดังนั้น อาจมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ที่เสียหายกว่านั้นคือ นักลงทุนเกิดความลังเล และมีผลกระทบต่อตลาดอย่างชัดเจน

 

ที่มา: MIT Techmology Review, E2

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related