สหรัฐฯ เตรียมกำหนดภาษีการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงถึง 3,521% มุ่งเป้ากัมพูชา ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศแผนที่จะเรียกเก็บภาษีสูงถึง 3,521% สำหรับการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จาก 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากมีการฟ้องร้องที่เริ่มต้นเมื่อปีที่แล้ว โดยกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่หลายรายที่เรียกร้องให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในขณะนั้น ดำเนินการเพื่อปกป้องภาคธุรกิจในสหรัฐฯ ของพวกเขา
โดยบริษัทที่ไม่ได้ระบุชื่อในเวียดนามต้องเสียภาษีศุลกากรสูงถึง 395.9% ไทย 375.2% มาเลเซีย 34.4% และ และกัมพูชา 651.85%
การเรียกเก็บภาษีในครั้งนี้ มุ่งเป้าไปที่บริษัทในกัมพูชา ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม เป็นการตอบสนองต่อข้อกล่าวหาเรื่องการอุดหนุนจากจีนและการแลกเปลี่ยนทางการค้าที่ขาดดุลและถูกมองว่าไม่เป็นธรรมต่อตลาดของสหรัฐฯ โดยหน่วยงานของรัฐบาลกลางที่เรียกว่า 'คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ' มีกำหนดจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเดือนมิถุนายน
ด้านคณะกรรมการการค้าของพันธมิตรอเมริกันเพื่อการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำร้องหลัก ได้ออกมาแสดงความยินดีกับการตัดสินใจของกระทรวงพาณิชย์ โดยทิม ไบรท์บิลล์ ที่ปรึกษากฎหมายของพวกเขาระบุว่านี่เป็นอัตราการปรับขึ้นภาษีที่สูงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ซึ่งนับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับภาคการผลิตของอเมริกาในการต่อสู้กับการตัดราคาของทางจีน
ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยได้ออกมาเตือนว่า การเรียกเก็บภาษีครั้งนี้จะกลายเป็นการจำกัดการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ จนไม่สามารถตอบสนองความต้องการภายในประเทศได้ และผลักดันให้ภาคการผลิตต้องมองหาแหล่งพลังงานจากต่างประเทศแทน