คนไทยมีโอกาสติด “โซลาร์รูฟท็อป” มากขึ้น ลุ้นลดภาษี 2 แสน-ไม่ต้องขอรง.4

ปี2568 อีกหนึ่งสิ่งที่น่าจับตามองคือ การติดตั้ง “โซลาร์รูฟท็อป” ในประเทศไทยน่าจะมีการขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากเทรนด์รักษ์โลก ทั้งภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจ กำลังมาแรงมากๆ เนื่องจากไฟฟ้าสีเขียวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทำให้ภาคธุรกิจส่งออกได้ง่ายขึ้น รวมถึงประชาชนจะหันมาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปมากขึ้นรับมือค่าไฟที่ผันผวน อีกทั้งเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน หากผลิตเกินความต้องการใช้ก็สามารถจำกหน่ายสร้างรายได้

ก่อนหน้านี้ประชาชน และภาคธุรกิจมีโอกาสเข้าถึงการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปยากพอสมควร แถมยังราคาสูงอีกด้วย แต่ในปัจจุบันเริ่มมีโซลาร์เซลล์ราคาถูกจากจีนเข้ามาช่วงชิงตลาดในไทยมากขึ้น อีกทั้งรัฐบาลก็เริ่มหามาตรการจูงใจให้ประชาชน และภาคธุรกิจ หันมาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปมากขึ้น ซึ่งในปี2568 นี้ก็เช่นกันมีหลายนโยบายที่ยังคงต้องจับตา และลุ้นให้แจ้งเกิดโดยเร็ว

 

ล่าสุด นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาเห็นชอบมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานทดแทน โดยเฉพาะการส่งเสริมการติดตั้งผลิตไฟฟ้าบนหลังคา หรือโซลาร์รูฟท็อป และอุปกรณ์ประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง

สำหรับการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป และอุปกรณ์ประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง กระทรวงพลังงาน จะกำหนดให้ผู้ที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้ไม่เกิน 2 แสนบาทต่อ 1 มิเตอร์ และหากเป็นอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน นำมาหักภาษีเงินได้ประมาณ 1.5 เท่าของราคาอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง

ทั้งนี้จะดำเนินการพัฒนากฎหมายเพิ่มการเข้าถึงพลังงานสะอาด รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับภาคประชาชนโดยลดขั้นตอนและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆสนับสนุนให้คนไทยมีโอกาสได้ติดตั้ง “โซลาร์รูฟท็อป” ได้มากขึ้น อย่างเช่นที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 17 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ครม.มีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ … (พ.ศ. …) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 กำหนดยกเว้นให้การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือโซลาร์รูฟท็อป ในทุกกำลังการผลิตให้ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงานและไม่ต้องขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน หรือรง.4

ทั้งนี้จากเดิมกฎหมายโรงงานได้มีการกำหนดให้การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปที่มีกำลังการผลิตตั้งแต่ 1,000 กิโลวัตต์ จำเป็นที่จะต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน หรือรง.4 นอกจากนี้ยังจะมีการพิจารณาขยายการปลดล็อกโซลาร์ฟาร์ม และ Solar Floating อีกด้วย เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดทุกภาคส่วนทั้งครัวเรือน และภาคธุรกิจในประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• รัฐโอไฮโอโชว์ 'ฟาร์มโซลาร์เซลล์' พัฒนาทั้งพลังงานสะอาดและเศรษฐกิจชุมชน

• ต่างประเทศเดินหน้าติดโซลาร์เซลล์ตามชุนชน กระจายความเจริญ พัฒนาเศรษฐกิจ

• เตรียมเงินรอเลย! โซลาร์เซลล์ราคาถูก วางขายปี’68 ก.พลังงานจัดให้