5 สตาร์ทอัพด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเป็นเป็นผู้นำเทรนด์ในปี 2025
แม้ว่าทั่วโลกยังคงปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นในปี 2024 ที่ผ่านมา แต่ปีนี้ยังคงมีบริษัทสตาร์ทอัพจำนวนมาที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายในการฟื้นฟูโลกใบนี้จากวิกฤติสิ่งแวดล้อม
เว็บไซต์ Forbes ได้เผยแพร่บทความการจัดอันดับ 5 บริษัทสตาร์ทอัพด้านสิ่งแวดล้อมที่มีแนวคิดแปลกใหม่ เพื่อตั้งเป้าการลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรม และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในเรื่องความยั่งยืน ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำเทรนด์ด้านการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมประจำปี 2025 นี้
Fram Energy
สตาร์ทอัพที่เจาะกลุ่มเป้าหมาย 'บ้านเช่า' ซึ่งผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ไม่สามารถติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เองได้หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของบ้าน ทางบริษัทจึงนำเสนอระบบที่จะทำให้ทั้งเจ้าของและผู้เช่าสามารถนำส่วนต่างหรือ 'เงินประหยัด' จากการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาแบ่งกัน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้รับผลประโยชน์ที่เหมาะสม ซึ่งนับเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของพลังงานสะอาดด้วย
Pathways
สตาร์ทอัพที่นำ AI เข้ามาใช้เพื่อสร้าง "ข้อมูลสำหรับการผลิตที่ยั่งยืน" โดยจะร่วมมือกับอุตสหกรรมหรือผู้ผลิตสินค้าต่างๆ เพื่อจัดทำ "ฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์" หรือ EPD โดยปรับกระบวนการที่ยุ่งยากและใช้เวลานานให้กระชับและมีคุณภาพมากขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตลดปริมาณคาร์บอนและสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Vycarb
สตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นการกำจัดและกักเก็บคาร์บอน โดยใช้เทคโนโลยีในการจำลองและเร่งวงจรคาร์บอนในมหาสมุทรตามธรรมชาติ เพื่อเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นไบคาร์บอเนต ซึ่งเป็นคาร์บอนที่เสถียรและคงอยู่ในมหาสมุทรเป็นเวลาหลายพันปี และมีระบบที่วัดผลได้ว่าพวกเขากำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ไปได้มากแค่ไหน เพื่อตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมและตลาดคาร์บอนเครดิตในอนาคต
Synonym
สตาร์ทอัพที่พยายามสร้างผลผลิตทางชีวภาพที่แปลกใหม่สำหรับคนรุ่นต่อไป โดยใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อการประมวลผลและปรับเปลี่ยนข้อมูลทางพันธุกรรมให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่พร้อมออกสู่ตลาดจริง เช่น ใยแมงมุมสำหรับสิ่งทอหรือผลิตเป็นเกราะป้องกันร่างกายได้
Voltpost
สตาร์ทอัพที่มีแนวคิดการปรับปรุงไฟถนนด้วยปลั๊กชาร์จ EV เพื่อลดต้นทุนและเปิดโอกาสการบูรณาการเพิ่มเติม เช่น ติดตั้งจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอยของโครงสร้างพื้นฐานในเมือง พวกเขามองว่าไฟถนนควรเป็นมากกว่าแหล่งกำเนิดแสงสว่าง แต่สามารถเป็นศูนย์กลางชุมชนที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่ได้
