SHORT CUT
จากปัจจุบันที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้ามากจากก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 60% และสัดส่วนพลังงานสะอาด 26%
สำหรับการจัดทำร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ หรือ PDP2024 ภายในปี 2580 จะเน้นสัดส่วนของก๊าซธรรมชาติจะลดลงเหลือ 41 % และสัดส่วนพลังงานสะอาดจะเพิ่มเป็น 51%
ไทยเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดต่อเนื่อง คาดปี 2580 จะเน้นสัดส่วนของก๊าซธรรมชาติจะลดลงเหลือ 41 % และสัดส่วนพลังงานสะอาดจะเพิ่มเป็น 51% รับเทรนด์โลก
ควันหลงเวทีปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “นโยบายและทิศทางพลังงานไทย” ใน IEEE PES Dinner Talk 2024 โดย สมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) หนึ่งในไฮไลท์สำคัญ “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ” ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ปี2568 นโยบายด้านพลังงานที่สำคัญของไทยจะให้ความสำคัญเรื่องการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาดให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้ามากจากก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 60% และสัดส่วนพลังงานสะอาด 26%
สำหรับการจัดทำร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ หรือ PDP2024 ภายในปี 2580 จะเน้นสัดส่วนของก๊าซธรรมชาติจะลดลงเหลือ 41 % และสัดส่วนพลังงานสะอาดจะเพิ่มเป็น 51% ทั้งนี้ให้เป็นไปตามทิศทางที่สอดคล้องกับเทรนด์โลก ที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง Climate Change เนื่องจากแต่ละประเทศมีเป้าหมายชัดเจนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ทั้งนี้นโยบายพลังงานของไทยเน้นให้ความสำคัญการส่งเสริมพลังงานสะอาดเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผลักดันไทยสู่ Digital Hub ของอาเซียน ส่งเสริมการลงทุนโครงการ Data Center และ Cloud Service ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเห็นได้จากการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ โดยที่ผ่านมามากกว่า 46 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 167,989 ล้านบาท
“เราได้เตรียมความพร้อมเรื่อง Direct PPA กว่า2,000 เมกะวัตต์ และยังมีนโยบายไฟฟ้าสีเขียว Utility Green Tariff สิ่งที่นักลงทุนต้องการคือ ไฟฟ้าสะอาด และต้องเป็นไฟฟ้าที่มีคุณภาพ ดังนั้นเราต้องทำอย่างไรให้ไฟฟ้ามีความมั่นคงต่อเนื่อง รวมถึงต้องมีคุณภาพ ไม่มีเหตุการณ์ไฟฟ้าตก หรือดับ เราจะต้องพร้อมจ่ายไฟฟ้าตลอดเวลา”
ไม่เพียงเท่านี้ในปี2568 ยังจะมีนโยบายจัดหาแหล่งพลังงานใหม่ในประเทศ ด้วยการเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม บนบกรอบที่25 โดยคาดว่าจะมีปริมาณทรัพยากรน้ำมันดิบอยู่ที่ 5.76 ล้านบาร์เรล และก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 20.7 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต พร้อมกันนี้มีเงินลงทุนในการสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมประมาณ 73.75 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะเดียวกันยังเตรียมเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 26 ในฝั่งอันดามัน ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า มีหลายบริษัทให้ความสนใจ อีกทั้งยังมีพื้นที่อ้างสิทธิทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา หรือ OCA ที่เป็นพื่นที่ที่มีความน่าสนใจ และเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพมีโอกาสพบปิโตรเลียม โดยหากรัฐบาลสามารถเจรจาข้อยุติและสามารถเข้าไปพัฒนานำปิโตรเลียมมาใช้ประโยชน์ได้ จะสามารถช่วยลดการนำเข้าพลังงานได้มากเลยทีเดียว เนื่องจากปัจจุบันที่ไทยต้องพึ่งพาพลังงานนำเข้ากว่า 75% นี่คือสาเหตุที่ทำให้ไทยเรามีต้นทุนค่าไฟสูง
อย่างไรก็ตามนโยบายปี2568 ยังจะเน้นเทคโนโลยีพลังงานรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับช่วงเปลี่ยนผ่านพลังงานรวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบรองรับการใช้งานพลังงานไฮโดรเจน การเพิ่มขีดความสามารถในการจัดหาวัตถุดิบมาใช้ผลิต เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน(SAF)ให้เพียงพอการใช้งานในปี 2569 และการใช้ประโยชน์แหล่งปิโตรเลียมให้เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน (CCS) ด้วย
ที่มา: กระทรวงพลังงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง