SHORT CUT
จุดเด่น คือ เครื่องจักรกลในการเผาขยะ จะดันขยะขึ้นมาเผาอย่างละเอียดไม่เหลือซาก ข้อดีคือช่วยจัดการการปล่อยมลพิษ
ใช้เทคโนโลยีในการจัดการน้ำเสียสามารถบำบัดน้ำที่เกิดจากการเผาให้บริสุทธิ์จนนำกลับมาดื่มได้
พาลัดฟ้าไปชมเทคโนโลยีการเผาขยะผลิตกระแสไฟฟ้าสุดล้ำ “มหานครฉงชิ่ง” ประเทศจีน ที่เป็นมิตรต่อโลก จุดเด่น คือ เครื่องจักรกลในการเผาขยะ จะดันขยะขึ้นมาเผาอย่างละเอียดไม่เหลือซาก ข้อดีคือช่วยจัดการการปล่อยมลพิษ
นาทีนี้ทั่วโลกกำลังมีความพยายามลดขยะ และหันมาใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนขยะมาเป็นพลังงาน ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ #SPRiNG ได้มีโอกาสเยือน "มหานครฉงชิ่ง" จีนแผ่นดินใหญ่ ในโครงการ “มองจีนยุคใหม่ สิ่งที่สื่อไทยควรรู้” ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 24-30 ตุลาคม 67 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมกันนี้ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงาน ณ โรงงานผลิตรถยนต์ Changan Automobile Digital Intelligent Factory นครฉงชิ่ง ประเทศจีน
พร้อมกันนี้ได้เข้าไปศึกษาดูงานที่ Chongqing Sanfeng Environmental Industrial Group Co., Ltd ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการขยะผ่านเทคโนโลยีหรือการเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน โดยบริษัทดังกล่าวมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการเผาขยะเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ในมหานครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีพื้นที่ก่อสร้างรวมประมาณ 100,000 ตารางเมตร โดยโรงงานแห่งนี้จะจัดการขยะที่เกิดจากการใช้งานในครัวเรือนโดยรับผิดชอบการจัดการขยะทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของมหานครฉงชิ่ง มีกำลังในการกำจัดขยะมูลฝอย 3,000 ตันต่อวัน พร้อมทั้งได้ก่อสร้างประตูในการรับขยะจากรถขยะทั้งหมดกว่า 16 ประตู
สำหรับการจัดการขยะที่เกิดจากการใช้งานในครัวเรือนมีทั้งวิธีการฝังกลบ การเผา และการรีไซเคิล ซึ่งสถานการณ์การจัดการขยะทั้งนิและนอกประเทศจีน สัดส่วนของการเผามีมากกว่า 90% อย่างไรก็ตามจึงทำให้จีนให้ความสำคัญในเชิงนโยบายเรื่องการจัดการขยะด้วยการเผาจะพบว่ามีตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปี 2023 เนื่องจากการเผามีประโยชน์ในหลายทางจึงกลายเป็นวิธีการจัดการขยะที่ได้รับความนิยม ความร้อนที่เกิดจากการเผาทำลายขยะจะถูกนำมาเปลี่ยนเป็นพลังงานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ขณะที่น้ำส่วนเกินที่เกิดจากการเผาสามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อได้ เช่น รดน้ำต้นไม้ได้ อีกทั้งกากขยะที่ถูกกำจัดถูกนำมาเป็นส่วนประกอบในการสร้างผิวถนน
จุดเด่นของบริษัท คือ เครื่องจักรกลในการเผาขยะจะดันขยะขึ้นมาเผาอย่างละเอียดจนไม่เหลือซาก จึงเป็นข้อดีที่ช่วยจัดการการปล่อยมลพิษได้ในระดับต่ำกว่ามาตรฐานที่ทาง EU กำหนดไว้ รวมถึงยังใช้เทคโนโลยีในการจัดการน้ำเสียสามารถบำบัดน้ำที่เกิดจากการเผาให้บริสุทธิ์จนนำกลับมาดื่มได้ ปัจจุบันขายลิขสิทธิ์เครื่องจักรนี้ออกไปให้หลายประเทศทั่วโลก เช่นที่ เวียนนา ประเทศออสเตรีย โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ขณะเดียวกันภายในโรงงานยังมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยทำให้มนุษย์เข้าไปมีส่วนร่วมน้อยจึงเกิดความปลอดภัยในการจัดการมากขึ้น เช่น ระบบจัดการขยะก่อนเข้าสู่เครื่องจักร ในห้องควบคุมระบบจะมีแรงงานคนคอยควบคุมอยู่ ขณะเดียวกันมีการทดลองใช้ระบบดิจิทัลจำนวน 1 เครื่องในกระบวนการนี้
อย่างไรก็ตามบริษัทแห่งนี้ยังมีบทบาทในการกำหนดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและเป็นผู้บริหารโครงการต่างๆ ทั้งในจีนและต่างประเทศ โดยในประเทศไทยมีโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีของบริษัทตั้งอยู่ที่จังหวัด ภูเก็ต นครปฐม สระบุรี และโคราช จังหวัดนครราชสีมา โดยใช้ระบบการจัดการเดียวกันทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าของการลงทุนเพราะไฟฟ้าที่ประเทศไทยมีราคาค่อนข้างสูง ระบบการเก็บขยะในจีนจะคล้ายกับเมืองไทยที่แม้จะมีการตั้งถังขยะไว้สำหรับแยกขยะ แต่สุดท้ายก็ถูกนำมาเทรวมกันหากขยะถูกแยกตั้งแต่ต้นทางก็จะง่ายต่อการกำจัด แต่ยังไม่ตระหนักในเรื่องนี้กันอย่างทั่วถึง
นอกจากนี้รถเก็บขยะของบริษัทยังมีส่วนหนึ่งที่ใช้น้ำมัน เช่นเดียวกับประเทศไทย เนื่องจากอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปใช้รถไฟฟ้า เนื่องจากรถน้ำมันปัจจุบันยังใช้งานได้ตามปกติ แต่เมื่อถึงเวลาหมดอายุการใช้งานตามกฎหมายจะถูกเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด
สำหรับมหานครฉงชิ่ง มีประชากรประมาณ 32 ล้านคน หลังยุคโควิดมีขยะเพิ่มมากขึ้นเพราะมีการเปิดประเทศ ผู้บริหารให้ข้อมูลว่าสัดส่วนของขยะในฉงชิ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นขยะอินทรีย์ ต่างจากเซี่ยงไฮ้ ที่ขยะส่วนใหญ่จะเป็นขยะที่ให้ความร้อนได้มากกว่า เช่น กล่องกระดาษ เอกสาร หนังสือพิมพ์ เป็นต้น แต่ฉงชิ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นขยะอินทรีย์ที่ให้ความร้อนไม่ได้จึงทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่า เมื่อคิดเป็นมูลค่าเงิน ขยะ 1 ตัน มีมูลค่าประมาณ 10 ถึง 100 หยวนช่วยประหยัดค่าบริหารจัดการขยะของรัฐบาล
โดยนโยบายรัฐบาลจีนที่ส่งเสริมเรื่องสิ่งแวดล้อม บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้จึงได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งการกำหนดอัตราการจ่ายภาษีให้เป็นพิเศษ และไฟฟ้าที่ผลิตจะขายได้ราคาดีกว่าไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงงานถ่านหิน ขณะเดียวกันบริษัทมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ พื้นที่ที่จะใช้สร้างโรงงานเพิ่มเติมรัฐบาลก็มีการมีการจัดสรรที่ดินให้
นอกจากนี้อีกหนึ่งในความใส่ใจปกป้องระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม คือการบริหารจัดการเรื่องกลิ่น โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างไกลจากพื้นที่เมืองและชุมชนจึงไม่เกิดผลกระทบในเรื่องมลภาวะทางอากาศ นอกจากนี้ในยุคก่อนเคยใช้การกำจัดขยะแบบบ่อฝังกลบ ปัจจุบันส่วนที่ใช้ในการฝังกลบไม่ได้ใช้แล้วเพราะเปลืองพื้นที่และดินเกิดการปนเปื้อนส่งผลกระทบ
ต่อทรัพยากรน้ำ เมื่อเปลี่ยนระบบการจัดการขยะเป็นการเผาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงใช้พื้นที่เล็กกว่าและไม่ต้องกังวลถึงอนาคต อย่างไรก็ตามบ่อฝังกลบแห่งนี้ ในปัจจุบันยังไม่ถูกพัฒนาเนื่องจากพื้นที่พัฒนาต่อได้ยากเพราะใช้ต้นทุนสูง
ส่วนการจัดการขยะของบริษัทเป็นโมเดลใหม่ แต่เชื่อว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ได้ใช้และประสบความสำเร็จเริ่มต้นที่ จ.ภูเก็ตกว่า 10 ปีแล้ว คณะผู้บริหาร Sanfeng Yulin Environmental กล่าวด้วยว่า “นี่คือสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าผลกำไรเพราะการผลิตไฟฟ้าคือคุณค่าที่เกิดขึ้นกับสังคมและพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นมาเกิดเป็นพลังงานทางเศรษฐกิจ (win - win) เป็นระบบนิเวศแบบครบวงจร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง