ฟินแลนด์สร้างปั๊มความร้อนใหญ่สุดในโลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอนฯ

ฟินแลนด์กำลังก่อสร้างปั๊มความร้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก  โดยปั๊มดังกล่าวเป็นเครื่องทำความร้อนชนิดอากาศสู่น้ำ (Air to water Heat Pump) ซึ่งใช้วงจรสารทำความเย็นในการแลกเปลี่ยนพลังงานความร้อนจากอากาศไปสู่น้ำร้อนเพื่อใช้งาน และจะแจกจ่ายสร้างความอบอุ่นให้แก่บ้านเรือนราว 3 หมื่นหลังในกรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์

ลักษณะการเป็นปั๊มความร้อนชนิดอากาศสู่น้ำ ทำให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ โดยเครื่องดังกล่าวสามารถสร้างความร้อนได้แม้จะในสภาพอากาศที่หนาวเย็นต่ำสุดคือ -20 องศาเซลเซียสก็ตาม และเครื่องดังกล่าวจะทำงานโดยพลังงานทดแทน ไม่ใช่พลังงานฟอสซิลแบบดั้งเดิม

ทั้งนี้ แผนการดังกล่าวได้รับการร่วมมือโดยบริษัท Helen Oy ซึ่งเป็นบริษัทด้านพลังงานของฟินแลนด์ และคาดว่า จะเริ่มส่งความอบอุ่นไปตามอาคารบ้านเรือนต่างๆได้สิ้นปี 2026 นี้ นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานภาครัฐอย่างกระทรวงกิจการเศรษฐกิจและการจ้างงานสนับสนุนด้วย

ด้าน Juhani Aaltonen รองประธานด้านการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ Helen Oy เปิดเผยว่า กรุงเฮลซิงกิตั้งเป้าที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2030 และการเปลี่ยนผ่านระบบทำความร้อนก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ และเมื่อระบบเสร็จสมบูรณ์ โรงงานเครื่องปั๊มความร้อนก็จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการทำความร้อนได้ และจะช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์

สำหรับบริษัทที่เข้ามาสร้างปั๊มความร้อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกให้ฟินแลนด์ก็คือบริษัท MAN Energy Solution ของเยอรมนี โดยเครื่องปั๊มความร้อนจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราวปีละ 26,000 ตันต่อปี แทนที่แก๊ส ซึ่งบ้านเรือนส่วนใหญ่ก็ใช้แก๊สทำความร้อนเป็นหลัก

รายงานยังระบุว่า ราวครึ่งหนึ่งของการบริโภคพลังงานในสหภาพยุโรปใช้เพื่อทำความร้อนและทำความเย็นให้อาคารบ้านเรือน และกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานเหล่านั้นมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ส่วนใหญ่คือ ก๊าซธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม ฟินแลนด์กำลังเป็นผู้นำในด้านการทำความร้อนภายในครัวเรือนอย่างเป็นมิตรต่อสภาพอากาศ เพราะ 41 เปอร์เซ็นต์ของอาคารบ้านเรือนใช้ปั๊มทำความร้อน และราวครึ่งหนึ่งของพลังงานที่ใช้ในการทำความร้อนกับความเย็นในประเทศฟินแลนด์เมื่อปี 2021 พบว่ามาจากพลังงานทดแทน เช่น พลังงานชีวมวล

ที่มา : EURONEWS