svasdssvasds

ผลสำรวจจาก Nature ชี้ นศ.ป.โท-ป.เอก 75% เตรียมย้ายออกจากสหรัฐฯ

ผลสำรวจจาก Nature ชี้ นศ.ป.โท-ป.เอก 75% เตรียมย้ายออกจากสหรัฐฯ

ขณะนี้ สหรัฐฯ กำลังเผชิญสภาวะ “สมองไหล” ผลสำรวจจาก Nature ชี้ นศ.ป.โท-เอก 75% เตรียมย้ายหนีทรัมป์ เผย “ขอไปที่ไหนก็ได้ที่มีเสรีภาพทางวิชาการมากกว่านี้”

ดูเหมือนว่าลายเซ็นของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในการสั่งการเรื่องต่าง ๆ อาทิ ตัดงบวิจัย ไล่พนักงานกรมป่าไม้ หรือ NOAA ออก ตกงานทันทีหลายหมื่นคน รวมถึงการลดความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม ข้อสั่งการเหล่านี้ เริ่มมีผลกระทบให้เห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงวิชาการ

Credit Reuters

ล่าสุด วารสาร Nature ได้ทำการสำรวจนักศึกษาระดับปริญญาทั่วสหรัฐฯ พบว่า นักศึกษาระดับปริญญาโท-เอก กว่า 75% พิจารณาย้ายออกจากสหรัฐฯ เนื่องจากแวดวงวิทยาศาสตร์ถูกริดรอนเสรีภาพในการทำงานวิจัย ทั้งยังถูกตัดเงินทุน และทรัมป์แสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่สนับสนุนการศึกษา

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ วันที่ 7 มี.ค. 68 องค์กรระดับท้องถิ่น ชื่อ “Stand Up for Science” จัดกิจกรรมหยุดงานประท้วง โดยผู้เข้าร่วมจะเดินออกจากห้องทดลอง ห้องเรียน หรือสำนักงานของคนเอง จัดขึ้น 32 เมืองทั่วสหรัฐฯ เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านการตัดเงินทุนทางวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่ และการโจมตีองค์กรทางวิทยาศาสตร์โดยรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์

ผลสำรวจจาก Nature ชี้ นศ.ป.โท-ป.เอก 75% เตรียมย้ายออกจากสหรัฐฯ

โดยคำถามแรกที่ผู้ร่วมตอบแบบสอบถามต้องตอบคือ “คุณคือนักวิจัยในสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาออกจากประเทศ หลังเกิดการหยุดชะงักทางวิทยาศาสตร์ อันเนื่องมาจากรัฐบาลทรัมป์หรือไม่”

จากผู้ตอบแบบสอบถาม 1,608 คนที่ตอบว่าเป็นนักวิจัยที่วางแผนจะออกจากสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ร้อยละ 75 ตอบว่า “ใช่" ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นอาชีพทางวิทยาศาสตร์หรือการศึกษามีความกระตือรือร้นที่จะออกจากสหรัฐอเมริกาเป็นพิเศษ

Credit AFP

ทั้งนี้ จากนักวิจัยระดับปริญญาโท 690 คนที่ตอบแบบสอบถาม 548 คน เผยว่า กำลังพิจารณาที่จะออกจากสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับนักศึกษาปริญญาเอก 255 คนจาก 340 คน โดยจุดประเทศปลายทางยอดฮิตคือ แคนาดา และยุโรป

นักศึกษารายหนึ่งระบุเหตุผลที่เจ้าตัวต้องการออกจากสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะว่า การสูญเสียการสนับสนุนด้านการวิจัย ขณะที่อีกหนึ่งท่าน เผยว่า “อยากไปที่ใหนก็ได้ที่สนับสนุนวิทยาศาสตร์”

ปรากฏการณ์นี้ควรจับตามองอย่างใกล้ชิด เมื่อผู้นำสหรัฐฯ เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้สร้างชื่อ และผลักให้สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลก จนบรรดานักศึกษา นักวิจัยรู้สึกถึงภัยคุกคามด้านการศึกษาวิจัย และพิจารณาย้ายประเทศ

 

ที่มา: Newsweek

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related