อ.สนธิเตือน การเคลื่อนตัวของภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก A23a อาจเร่งให้ชายฝั่งไทยหายไปเร็วขึ้น พร้อมเปิดลิสต์รายชื่อเขตในกรุงเทพฯ อีก 25 ปีจะเจอน้ำท่วมหนัก
กรุงเทพฯจมน้ำ ไม่ใช่เพียงวาทะประดับงานวิจัย แต่เป็นคำเตือนที่มีมานานมากแล้ว และสถานการณ์เหล่านั้นกำลังดำเนินไปเรื่อย ๆ ช้า ๆ และเงียบเชียบ โดยที่ผู้คนแทบไม่รู้สึกเลยว่าเรากำลังเดินหน้าสู่วิกฤตการสูญเสียแผ่นดินไทยครั้งใหญ่จากภาวะโลกร้อน และเหตุการ์ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นนี้จะยิ่งกระตุ้นให้แผ่นดินไทยหายไปเร็วขึ้น
ล่าสุด อาจารย์สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้ออกมาย้ำเตือน ว่าความเสี่ยงน้ำท่วมพื้นที่ชายฝั่งทะเลประเทศไทยและกทม.กำลังใกล้เข้ามาแล้ว
โดยอาจารย์สนธิ คชวัฒน์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว โดยให้เหตุผลว่า ในอีกซีกโลกหนึ่ง กำลังเกิดเหตุการณ์การเคลื่อนตัวของภูเขาน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อว่า A23a มีความสูง 310 เมตร และหนา 400 เมตร มีความกว้าง 4,000 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่ากทม. 2 เท่า กำลังเคลื่อนตัวล่องลอยไปบริเวณเกาะเซาท์จอร์เจียทางขั้วโลกใต้ และกำลังแตกตัวออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เนื่องจากอุณภูมิเฉลี่ยของโลกร้อนขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสและอุณหภูมิเฉลี่ยน้ำทะเลสูงขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียส
รายงานวิจัยในวารสาร Nature Communication ซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 รายงานว่า ในปี 2050 พบว่าระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชากรของประเทศไทยมากถึง 10% (6-7ล้านคน) โดย 70% ของผู้ได้รับผลกระทบจะอยู่ใน 7 ประเทศ คือ จีน บังคลาเทศ อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น
และจากการคาดการณ์โดยองค์การ NASA พบว่า ในปี 2030 ประชาชนประมาณครางหนึ่งของโลกที่อยู่ริมชายฝั่งทะเลและริมแหล่งน้ำจะประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วม พายุและสึนามิอย่างรุนแรง โดยประเทศไทยจะเกิดซ้ำทุก ๆ 2-5 ปี
ปัจจุบันพบว่าระดับน้ำทะเลของประเทศไทยสูงขึ้นประมาณ 5.8 มม.ต่อปี โดยเฉพาะบริเวณอ่าวไทยรูปตัวก. ซึ่งพื้นที่ที่มีการกัดเซาะมากที่สุดในไทย ได้แก่
วัดขุนสมุทรจีน อ.แหลมฟ้าผ่า จ.สมุทรปราการ ประสบปัญหามากสุดอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นวัดหนึ่งเดียวที่ยืนหยัดท่ามกลางน้ำทะเลที่รายล้อม วัดขุนสมุทรจีนมีพื้นที่ประมาณ 76 ไร่ ถูกกัดเซาะอย่างรุนแรงอัตรามากกว่า 10 เมตรต่อปี กินพื้นที่ประมาณ 56,531 ไร่ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
รายงานจาก UNESCO คาดการณ์ว่า ในปี 2050 น้ำแข็งที่ละลายจากภาวะโลกร้อนมากขึ้น จะส่งผลให้ประเทศไทยมีระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 20-30 เซนติเมตร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลอยู่แล้ว จะมีปัญหาแผ่นดินทรุดปีละ 100 มิลลิเมตร ขณะที่ปริมาณเฉลี่ยฝนจะตกลงมาเพิ่มขึ้น 5-20% ต่อปี
และจากการคาดการณ์ดังกล่าวพบว่า พื้นที่เขตในกทม.ที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักในปี 2050 มีทั้งหมด 10 เขต คือ บางคอแหลม บางรักธนบุรี บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย บางนา บางกะปิ รวมคำแหง บางเขนและดอนเมือง
อย่างไรก็ตาม อาจารย์สนธิแนะปิดท้ายว่า รัฐบาลจะต้องเตรียมการในการป้องกันปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะจังหวัดชายฝั่งทะเล เช่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นนทบุรี ปทุมธานี อย่างจริงจัง ก่อนที่จะสายเกินไป