svasdssvasds

นักวิทย์สร้างขี้วาฬปลอมปล่อยสู่ทะเล หวังช่วยเก็บคาร์บอนและคืนสมดุล

นักวิทย์สร้างขี้วาฬปลอมปล่อยสู่ทะเล หวังช่วยเก็บคาร์บอนและคืนสมดุล

นักวิทยาศาสตร์รู้มานานแล้วว่าอุจจาระของวาฬอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อระบบนิเวศ เช่น ธาตุเหล็ก, ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส ที่สำคัญ เมื่อปล่อยให้มันสัมผัสกับแสงอาทิตย์ ของเสียวาฬจะกระตุ้นให้เกิดแพลงตอนพืชอาหารสำคัญของสัตว์ทะเลหลายชนิดลอยไกลหลายกิโลบนผิวน้ำ

แต่อุตสาหกรรมการล่าวาฬในศตวรรษที่ 20 ทำให้ประชากรวาฬกว่าสามล้านตัว หรือ 99% ของวาฬทั้งหมดลดลง ส่งผลให้ระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหารในท้องทะเลปั่นป่วน จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทีมนักวิจัยจากมูลนิธิ WhaleX พยายามจำลอง ‘ขี้วาฬเทียม‘ ขึ้นมาทดแทนประชากรที่เสียไป 

โดยเมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 ทีมนักวิจัยของ WhaleX ภายใต้การอนุญาตจากรัฐบาลออสเตรเลีย ได้ทดลองปล่อยขี้วาฬจำลองขนาดเท่าของจริงลงในทะเลแทสมัน ทางตะวันออกของออสเตรเลีย และวางแผนจะเพิ่มปริมาณการทดลองขึ้นเป็น 5 เท่าในปีหน้า

WhaleX ไม่ใช่กลุ่มเดียวที่เชื่อในไอเดียนี้ โปรเจค Marine Biomass Regeneration ที่นำโดย เดวิด คิง นักเคมีจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ก็กำลังทำการทดลองที่คล้ายกันนี้ ต่างกันก็แต่สถานที่ทดลองและเทคนิคที่ใช้ในการผสมขี้วาฬเทียมเท่านั้น

“เราเชื่อว่าถ้าสามารถจำลองการทำงานของอุจจาระวาฬได้ ในอีก 40 - 50 ปี บางทีเราอาจสามารถทำให้จำนวนประชากรปลา, สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หรือสัตว์มีเปลือกทั้งหลายในทะเลกลับมาเหมือนเมื่อ 400 ปีก่อนได้” คิงกล่าว


 

แพลงตอนพืชทำหน้าที่สำคัญมากอีกประการ หลังจากทีพวกมันเสียชีวิต มันจะซึมซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากให้จมลงไปใต้ทะเล และกักเก็บไว้ไม่ให้ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศเป็นเวลานาน โดยมีการประมาณว่าไพโตรแพลงตอนในทะเลช่วยกักเก็บคาร์บอนได้มากถึง 22 ตัน/ ปี หรือเท่ากับก๊าซเรือนกระจกที่รถยนต์ 4.8 ล้านคันปล่อยออกมาในแต่ละปี 

สอดรับกับเป้าหมายสูงสุดของ WhaleX คือการปล่อยขี้วาฬปลอมลงสู่พื้นที่ทางทะเล 300 จุดที่ถูกเรียกว่า ‘พื้นที่แห่งความตาย (Dead Zones)’ หรือบริเวณในท้องทะเลที่มีสารอาหารต่ำรอบโลก เพื่อกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 1.5 พันล้านตัน/ ปี 

อย่างไรก็ตาม หากจะนำการทดลองนี้ไปใช้ในวงกว้างมากขึ้น ทีมนักวิจัยยังต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าสารที่พวกเขาจะไม่ทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศที่ควบคุมการปล่อยสารลงในทะเล ซึ่งเป็นหน้าที่ของทั้งสองทีมที่ต้องพิสูจน์ว่านวัตรกรรมของพวกเขาจะไม่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศทางทะเล

แต่ถ้าพวกเขาทำได้สำเร็จ นี่จะเป็นอีกเทคนิคที่อาจช่วยให้ท้องทะเลฟื้นตัวจากการถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์ก็เป็นไปได้


 

อ้างอิง: smithsonianmag/ hakaimagazine


 

related