svasdssvasds

พาเทียบ 3 เหตุการณ์ใหญ่ "ภัยพิบัติทางธรรมชาติ" สึนามิ-น้ำท่วมกรุง-เหนือ

พาเทียบ 3 เหตุการณ์ใหญ่ "ภัยพิบัติทางธรรมชาติ" สึนามิ-น้ำท่วมกรุง-เหนือ

ปวดร้าวทุกครั้ง! พามาเทียบ 3 เหตุการณ์ใหญ่ "ภัยพิบัติทางธรรมชาติ" ปี’47- สึนามิถล่มใต้ ปี’54 น้ำท่วมกรุง -ปี’67 น้ำท่วมเหนือ ไม่ว่าครั้งไหนๆก็เกิดความเสียหาย ถ้าไม่รับมือโลกรวนให้ดี ครั้งต่อไปจะเจออะไร?

SHORT CUT

  • ภัยพิบัติทางธรรมชาติประกอบไปด้วย 4 ประเภทหลักๆ ดังต่อไปนี้ ธรณีพิบัติภัย อุทกภัย วาตภัย และ อัคคีภัย 

  • ภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์อะไร หรือเกิดขึ้นที่ประเทศไหนก็ตาม ผลลัพท์ คือ ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่มากก็น้อย ทั้งเศรษฐกิจ ทรัพย์สิน และสภาพจิตใจ

  • พาเทียบ 3 เหตุการณ์ใหญ่ภัยพิบัติทางธรรมชาติ สึนามิ-น้ำท่วมกรุง-เหนือ ไม่ว่าอะไรก็เจ็บพอเท่ากัน!

ปวดร้าวทุกครั้ง! พามาเทียบ 3 เหตุการณ์ใหญ่ "ภัยพิบัติทางธรรมชาติ" ปี’47- สึนามิถล่มใต้ ปี’54 น้ำท่วมกรุง -ปี’67 น้ำท่วมเหนือ ไม่ว่าครั้งไหนๆก็เกิดความเสียหาย ถ้าไม่รับมือโลกรวนให้ดี ครั้งต่อไปจะเจออะไร?

ภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์อะไร หรือเกิดขึ้นที่ประเทศไหนก็ตาม  ผลลัพธ์ คือ ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่มากก็น้อย ทั้งเศรษฐกิจ ทรัพย์สิน และสภาพจิตใจของผู้คนในที่เกิดเหตุ ญาติพี่น้อง รวมไปจนถึงคนที่ได้พบเห็นเหตุการณ์ โดยภัยพิบัติทางธรรมชาติประกอบไปด้วย 4 ประเภทหลักๆ ดังต่อไปนี้

  • ธรณีพิบัติภัย หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากพื้นดิน เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และดินถล่ม
  • อุทกภัย หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากน้ำ เช่น น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นสึนามิ
  • วาตภัย หรือภัยพิบัติทางอากาศ เช่น พายุประเภทต่าง ๆ
  • อัคคีภัย หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากไฟ เช่น ไฟป่า ทั้งนี้การเกิดไฟป่าในบางครั้งก็อาจเกิดจากมนุษย์ได้เช่นกัน

ทั้ง 4 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนๆ ก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่…บางทีก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะโลกรวน ทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยขึ้น ข้อมูลจากมูลนิธิเกษตรรักษ์สิ่งแวดล้อม (ประเทศไทย) ระบุว่า ภาวะโลกรวน หรือ Climate Change คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกที่รุนแรงแปรปรวน และเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกรวนก็คือก๊าซเรือนกระจกที่มีปริมาณมาก

แน่นอนว่าโลกรวน ไทยคือหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดเจนในปี2567 นี้ แล้งจัด ร้อนจัด พายุฝนตกชุก น้ำท่วมเหนือ อีสาน ครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณเตือนที่ไม่ดีกับโลกของเรา หากมนุษย์ยังไม่เร่งช่วยกันรับมือเรื่อง โลกร้อน หรือการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ส่อจะมีความรุนแรงขึ้นเร็วๆในไม่ช้านี้

สำหรับประเทศไทยที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มี 3 เหตุการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติ ครั้งใหญ่ที่น่าจนจำ คือ เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ถล่มจังหวัดภาคใต้ โดยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมาได้นำมาซึ่งความสูญเสีย ครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย

โดยเฉพาะ 6 จังหวัดภาคใต้ที่มีพื้นที่อยู่ในเขตชายฝั่งอันดามัน ได้แก่ กระบี่ พังงา ระนอง ตรัง ภูเก็ต และสตูล ความสูญเสียดังกล่าวนอกจากจะทำให้เกิดความเสียหายให้กับชีวิต ทรัพย์สิน เศรษฐกิจ จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ยังสร้างความเสียหายกระทบส่วนอื่นๆของไทยอีกมากมาย เช่น

ด้านสิ่งแวดล้อม

1. ทำให้แผ่นเปลือกโลกขยับ ค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์คลาดเคลื่อนไป

2. ส่งผลให้สภาพพื้นที่ชายฝั่งทะเลเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

3. ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ เช่น สัตว์น้ำบางประเภทเปลี่ยนที่อยู่อาศัย หรือเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

ด้านสังคม

1. สูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน เช่น บ้านเรือนเสียหาย ระบบสาธารณูปโภคถูกทำลาย

2. กระทบต่อการประกอบอาชีพของประชาชน เช่น การทำประมง การค้าขายบริเวณชายหาด ธุรกิจที่พักริมทะเล

3.ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คาดการณ์ว่า ยังคงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดสึนามิอีกครั้งในประเทศไทย เพราะแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลอันดามันบางส่วนมีการสะสมพลังงานมาหลายร้อยปี และยังไม่ได้ปลดปล่อยพลังงานออกมาเป็นแผ่นดินไหวและสึนามิ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีระบบเตือนภัยที่เชื่อถือได้ และต้องเตรียมพร้อมที่จะอพยพหนีภัยในพื้นที่เสี่ยงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ต่อมาอีกหนึ่งเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่คนไทยจะจดจำไม่มีวันลืม คือ น้ำท่วมใหญ่ปี2554 ซึ่งหลายจังหวัดถูกน้ำท่วมสูง ที่น่าตกใจ คือ กรุงเทพฯเมืองหลวงของประเทศไทย เมืองเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวที่ติดอันดับของโลกถูกน้ำท่วมด้วย

ใครจะไปคิดว่าน้ำจะท่วมเมืองหลวงได้ ทำเอาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนหยุดชะงักมาก จนทำให้ธนาคารโลก (World Bank) ถึงกับประเมินว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 มีมูลค่าสูงถึง 1.44 ล้านล้านบาทเป็นมหาอุทกภัยที่เลวร้ายที่สุด ทั้งในแง่ของปริมาณน้ำและจำนวนผู้ได้รับผลกระทบ

นอกจากนี้ยังทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2554 ทั้งปี ขยายตัวได้เพียง 0.1% แน่นอนว่าเพราะการติดลบอย่างหนักในไตรมาสที่สี่ของปี 2554 ที่เจอน้ำท่วม GDP หดตัวร้อยละ 9.0 ผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในราคาประจำปี คิดเป็นมูลค่า 328,154 ล้านบาท

พาเทียบ 3 เหตุการณ์ใหญ่ \"ภัยพิบัติทางธรรมชาติ\" สึนามิ-น้ำท่วมกรุง-เหนือ

ต่อมาคือเหตุการณ์น้ำท่วมภาคเหนือล่าสุด ปี2567 หลายจังหวัดเจอศึกหนัก เช่น น่านมีการประเมินว่าเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี หลังน้ำลดนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ประเมินน้ำท่วมรอบนี้หนักสุดในรอบประวัติศาสตร์ที่เคยท่วมในจังหวัดน่าน เสียหายไม่ต่ำกว่าหลักพันล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีน้ำท่วมใหญ่เมืองแพร่ สร้างความเสียหายมหาศาล จนคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)มีความกังวลต่อสถานการณ์น้ำและอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน คาดว่ามูลค่าความเสียหายช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. จะอยู่ที่ 6,000-8,000 ล้านบาท หรือ 0.03-0.04% ของจีดีพี ซึ่งภาคเกษตรได้รับผลกระทบมากที่สุด

นอกจากนี้หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประเมินน้ำท่วมภาคเหนือ ฉุดเศรษฐกิจเสียหาย 4,000-6,000 ล้านบาท และล่าสุดสดๆ ร้อนๆ น้ำท่วมใหญ่ที่ อำเภอแม่สาย และอำเภอเมืองเชียงราย ก็สร้างมูลค่าความเสียหายมหาศาลเช่นกัน และสถานีต่อไป คือ หนองคาย และนครพนม รวมถึงจังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขงที่กำลังเผชิญกับปัญหาน้ำโขงล้นตลิ่ง

ทั้งหมด คือ 3 เหตุการณ์ใหญ่ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น สึนามิ-น้ำท่วมกรุง-น้ำท่วมเหนือ และกำลังลามไปอีสานฝั่งโขง ล้วนแต่เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ปวดร้าว และถ้าเราไม่ช่วยกันดูแลโลก จากนี้ไปเราจะเจอกับเหตุการณ์อะไรอีก!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

 

related