“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ฉันอยากกลับบ้าน” ข้อความสุดท้ายจากยูโกะถึงทาคามัตสึ ก่อนจากกันตลอดกาล นี่คือเรื่องราวของชายชาวญี่ปุ่นวัย 69 ปี นามว่า "ยาสึโอะ ทาคามัตสึ" ผู้ใช้เวลากว่า 13 ปี ดำน้ำลงมหาสมุทรกว่า 650 ครั้ง เพื่อตามหาภรรยาผู้เป็นที่รัก...
เรื่องราวนี้มีทั้งความเศร้า เจือปนความหวัง และความรักต่อสามีที่มีให้ต่อภรรยา ยาสึโอะ ทาคามัตสึ ชายผู้สูญเสียภรรยาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และสึนามึที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ปี 2011 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตร่วม 2 หมื่นราย สูญหายอีกนับไม่ถ้วน
เส้นทางคู่ชีวิตของทาคามัตสึ และยูโกะเริ่มต้นขึ้นในปี 1988 เมื่อทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน และลงหลักปักฐานกันที่จังหวัดมิยากิ เมืองโอนากาวะ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ติดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ห่างจากเซ็นไดประมาณ 70 กิโลเมตร ไม่นาน ทั้งคู่ก็มีพยานรักลืมตาดูโลก 2 คนคือลูกชาย (คนโต) และลูกสาว
แต่แล้วจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตก็คืบคลานมาถึง วันที่ 11 มีนาคม 2011 ขณะที่ทาคามัตสึกำลังเดินทางกลับบ้าน หลังขับรถพาแม่ยายไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมา ชั่วขณะนั้นเอง เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 และมีรายงานว่าคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ซัดถล่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งหมายรวมถึงจังหวัดมิยากิ
แผ่นดินไหวในครั้งนั้นเกิดขึ้นอยู่นานนับ 6 นาที ลึกลงไปใต้พื้นดิน 32 กิโลเมตร โดยมีศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ (โทโฮกุ) ของคาบสมุทรโอชิกะเหตุการณ์นี้ถูกนิยามว่าเป็นภัยพิบัติแผ่นดินไหวรุนแรงเป็นอันดับ 4 ของโลก เท่าที่มีการบันทึกไว้ตั้งแต่ปี 1900
ผลกระทบหลังเกิดแผ่นดินไหวคือคลื่นสึนามิขนาดยักษ์ซัดทำลายสิ่งปลูกสร้างราบเป็นหน้ากลอง พร้อมทั้งพรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปร่วม 19,759 ราย และสูญหายอีก 2,553 ราย ทางฟากของทาคามัตสึ แม่ยาย รวมถึงลูก ๆ อีกสองคนปลอดภัยดี แต่ยูโกะ...เธอกลายเป็นเหยื่อจากภัยพิบัติในครั้งนี้
เบาะแสสุดท้ายที่มีการบันทึกไว้คือยูโกะไปทำงานที่ธนาคาร The 77 Bank สาขาโอนากาวะ ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ผู้จัดการสาขาได้อพยพพนักงานทั้ง 13 คนขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้า ซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 10 เมตร
หลังคลื่นสึนามิซัดถล่ม มีรายงานว่าพนักงานยังไม่ทรายชะตากรรมของพนักงาน 8 คน รวมถึงยูโกะด้วย ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ทาคามัตสึ ได้รับข้อความจากยูโกะว่า “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ฉันอยากกลับบ้าน” หลังจากนั้น ยูโกะก็หายสาบสูญไปตลอดกาล
สองปีต่อมา ท่ามกลางซากปรักหักพังของเมืองโอนากาวะ ทีมกู้ภัยได้พบโทรศัพท์ของยูโกะ และได้ส่งคืนให้กับทาคามัตสึ โทรศัพท์ยังใช้งานได้ เมื่อเปิดไปดูในกล่องข้อความ พบว่ามีอีกหนึ่งข้อความที่ยังค้างอยู่ “คลื่นสึนามิครั้งใหญ่”
หลังผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นมา ทาคามัตสึได้ทำงานเป็นคนขับรถบัสจนกระทั่งเกษียณอายุ แต่สิ่งหนึ่งที่สามีผู้นี้ทำมาตลอดคือเขาใช้เงินเก็บไปเรียนดำน้ำ กระทั่งได้รับใบอนุญาตในปี 2014 หลังจากนั้น เขาก็ดำน้ำหายูโกะ ภรรยาผู้จากเพียงกาย แต่ยังสถิตอยู่ในหัวใจนับตั้งแต่นั้นมา
ตั้งแต่วันที่ยูโกะจากไปจนถึงวันนี้ ทาคามัตสึ ดำน้ำไปแล้วกว่า 650 ครั้ง เพื่อค้นหาร่างภรรยา แม้เข้าใจดีว่าคงไม่มีกายหยาบให้จับต้องสัมผัสกันอีก แต่เขาก็ยืนกรานว่ายังไงก็จะตามหาต่อไปเรื่อย ๆ
“กลับบ้านกันเถอะ” ทาคามัตสึกระซิบแผ่วเบาราวกับว่ายูโกะเฝ้าฟังอยู่
หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว และสึนามึ ปี 2011 ทำให้ญี่ปุ่นทุกภาคส่วนทั้งรัฐ เอกชน หรือแม้แต่ประชาชนทุกคนได้ช่วยกันฟื้นฟูเมืองโอนากาวะให้กลับมางดงามดังที่เคยเป็น รวมถึงมีการยกระดับสิ่งปลูกสร้างให้ทนทานต่อแผ่นดินไหว หรือสามารถรับมือกับน้ำท่วมได้
นอกจากนี้ ยังมีการปลูกฝังประชาชนให้รู้วิธีรับมือเมื่อเกิดภัยพิบัติ ปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กเล็ก เพราะญี่ปุ่นถอดบทเรียนออกมาแล้วพบว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติไม่ว่าความช่วยเหลือใดก็ไม่รวดเร็ว และทันท่วงทีมากที่สุดนอกจากประชาชนต้องช่วยเหลือตนเอง
ที่มา: South China Morning Post
ข่าวที่เกี่ยวข้อง