สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ห่วงพายุจรถล่มพื้นที่เหนือตอนล่าง-อีสาน คาดการณ์ฝนตกหนักเพิ่มมากขึ้นต้น ก.ย.67 เร่งระบายน้ำท่วมขังเก่าหาพื้นที่รับน้ำเพิ่ม
สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 31 ส.ค. 67 เวลา 7.00 น. เป็นการรายงานสรุปรอบวันที่ 30 ส.ค.67
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 1 - 5 ก.ย. 67 ร่องมรสุมกำลังปานกลางจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก
ปริมาณน้ำรวม 61% ของความจุเก็บกัก (49,494 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 44% (25,313 ล้าน ลบ.ม.)
น้ำทะเลหนุนสูงช่วงวันที่ 30 ส.ค. – 5 ก.ย. 67 เนื่องจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง และคาดว่าจะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำบางปะกง เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 67 นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อติดตามผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยน้ำป่าไหลหลากโดยได้กำชับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกันในการเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบและเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว
พร้อมทั้งให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง จัดที่พักหรือศูนย์พักพิงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบที่ประชาชนไม่สามารถกลับเข้าไปพักอาศัยได้ จนกว่าจะฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่งกำลังสนับสนุนในการซ่อมแชมบ้านเรือนประชาชน หน่วยงานด้านสาธารณสุขดูแลสุขภาพอนามัยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนการฟื้นฟูและให้การช่วยเหลือพื้นที่
ที่มา : สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง