svasdssvasds

จับตานโยบายสหรัฐฯ หาก "ทรัมป์" ผู้ไม่เชื่อในโลกร้อน กลับมาเป็นประธานาธิบดี

จับตานโยบายสหรัฐฯ หาก "ทรัมป์" ผู้ไม่เชื่อในโลกร้อน กลับมาเป็นประธานาธิบดี

จะเกิดอะไรขึ้น หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ผู้เคยตั้งคำถามว่า "โลกร้อนมีจริงหรือไม่" ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง ท่ามกลางวิกฤติโลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบทั่วโลก

SHORT CUT

  • นโยบายโลกร้อนสหรัฐฯ อาจไม่เหมือนเดิม หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง
  • ทรัมป์คืออดีตประธานาธิบดีที่พาสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงปารีส ทั้งยังเคยแสดงความกังขาว่าโลกร้อนมีจริงหรือไม่
  • หนึ่งในนโยบายที่เป็นไปได้คือ การชะลอการเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลงฟอสซิลไปสู่พพลังงานสะอาด และไม่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า

จะเกิดอะไรขึ้น หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ผู้เคยตั้งคำถามว่า "โลกร้อนมีจริงหรือไม่" ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง ท่ามกลางวิกฤติโลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบทั่วโลก

การเมืองสหรัฐฯกำลังร้อนแรง เพราะเข้าสู่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งจะมีขึ้นในปลายปีนี้ แต่หลายคนจับตามองไปที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกลับมาลงเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันอีกครั้ง เพราะถ้าหากทรัมป์ได้รับเลือกตั้งอีก เขาจะเป็นคนกำหนดนโยบายต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อทั่วโลก ในฐานะที่สหรัฐฯเป็นประเทศมหาอำนาจ 

ในด้านนโยบายเกี่ยวข้องกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทรัมป์คืออดีตประธานาธิบดีที่พาสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงปารีสมาแล้ว และยังเคยแสดงความกังขาว่าโลกร้อนมีจริงหรือไม่ รวมถึงตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ว่า โลกกำลังร้อนขึ้นเพราะการเผาไหม้ของเชื้อพลิงฟอสซิล ดังนั้นเหล่านักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมยังไม่สนับสนุนทรัมป์

จับตานโยบายสหรัฐฯ หาก \"ทรัมป์\" ผู้ไม่เชื่อในโลกร้อน กลับมาเป็นประธานาธิบดี

แต่ถ้าหากในการเลือกตั้งปลายปีนี้ ทรัมป์คว้าชัยชนะและกลับมานั่งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯอีกครั้ง จอห์น เคอร์รี่ อดีตทูตพิเศษด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศของสหรัฐฯเปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า ทรัมป์บอกว่าเขาจะกลับมาพร้อมการแก้แค้น และมันจะต้องเป็นหายนะแน่ 

นี่คือความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นเกี่ยวกับนโยบายด้านปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่จะส่งผลกระทบไปทั่วโลก 

การเปลี่ยนผ่านไปสู่เชื้อเพลิงสะอาดจะชะลอตัว

ทรัมป์เคยประกาศในงานระดมทุนว่าเขาจะนำพลังงานฟอสซิลกลับมา เพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้รับเงินทุนสนับสนุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ โดยทีมงานหาเสียงของทรัมป์ยังบอกด้วยว่า ทรัมป์จะผ่อนคลายข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้พลังานถ่านหิน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้ครอบครัวชาวอเมริกันสามารถจ่ายไหว และรับประกันความมั่นคงพลังงานของประเทศ

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ของ NPR รายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยว่า รัฐบาลสมัยที่สองของทรัมป์จะทำให้การเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิลแบบดั้งเดิมเป็นพลังสะอาดชะลอตัวและช้าลง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นว่าจะทำให้การเปลี่ยนผ่านหยุดชะงักไปเลย เนื่องจากปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายของเทคโนโลยีพลังงานสะอาดเริ่มถูกลง และบรรดาบริษัทต่างๆก็มองเห็นว่า การตัดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะทำให้พวกเขาได้ประโยชน์ เพราะรัฐบาลมีสิทธิพิเศษต่างๆมอบให้

ทั้งนี้ ความล่าช้าในการแก้ปัญหาเรื่องโลกร้อนก็ทำให้เกิดความเสี่ยง เพราะโลกของเราต้องการการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วกว่าที่ทำอยู่ในเวลานี้ 
 

รถยนต์ไฟฟ้าต้องพักก่อน

นโยบายของรัฐบาลโจ ไบเดนในปัจจุบันนี้ สนับสนุนเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า โดยรัฐบาลผ่านกฎหมายเรื่องเครดิตภาษีเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์เคยกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้าว่า เป็นเรื่องไร้สาระเพราะเป็นรถยนต์ที่วิ่งได้ไม่ไกลเอาเสียเลย และอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากำลังทำร้ายตำแหน่งงานของชาวอเมริกัน 

จับตานโยบายสหรัฐฯ หาก \"ทรัมป์\" ผู้ไม่เชื่อในโลกร้อน กลับมาเป็นประธานาธิบดี

ที่มา: