กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้ ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิร้อนสุด 43 องศา มีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน เตือนตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ขอประชาชนระวังอันตราย
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด หลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน
ในขณะที่มีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน เช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะนี้
สำหรับลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
ฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และการระบายอากาศในบริเวณดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดี
สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ประกาศแจ้งเตือน วันนี้ (22 เม.ย.) เป็นอีกหนึ่งวันที่ค่าดัชนีความร้อน (Heat Index) ประจำวันอยู่ในเกณฑ์ "อันตรายมาก" หรือระดับสีแดง ควรงดทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเด็ดขาด
สำหรับผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน คือ ผลกระทบที่เกิดจากการรับสัมผัสอุณหภูมิของอากาศที่สูงขึ้นเกินกว่าระดับที่ร่างกายรับได้ อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ผื่น บวมแดง ตะคริว และโรคลมแดด
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก อายุ 0-5 ขวบ ผู้สูงอายุตั้งแต่อายุ 65 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วย หรือ คนที่มีโรคประจำตัว คนที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน คนที่ออกกำลังกายกลางแจ้งและนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ดัชนีความร้อน 27.0-32.9 องศา เป็นขั้นที่ต้องเฝ้าระวัง ติดตามข้อมูลข่าวสาร กลุ่มเสี่ยง ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ ลดกิจกรรมกลางแจ้ง ช่วง11.00-15.00 น.
ขณะที่ ดัชนีความร้อน 33.0-41.9 องศา เป็นขั้นการเตือนภัย ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ ลดกิจกรรมกลางแจ้ง ช่วง11.00-15.00 น. กลุ่มเสี่ยง สังเกตอาการตัวเอง และ ดัชนีความร้อน 42.0-51.9 องศา เป็นขั้นอันตราย สังเกตอาการตัวเอง กลุ่มเสี่ยง ควรมีหมายเลข รพ.ที่ใกล้ที่สุด ในขณะที่ดัชนีความร้อนมากกว่าหรือเท่ากับ 52 องศา งดทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเด็ดขาด
ที่มา : สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร