SHORT CUT
ขณะนี้รัฐเท็กซัส สหรัฐฯ กำลังเกิดไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ หลังอุณหภูมิร้อนจัด แถมมีลมกระโชกแรงทำให้กระพือไฟมอดป่าแล้ว 2.5 ล้านไร่ แถมควบคุมเพลิงได้แค่ 3% เท่านั้น เบื้องต้นผู้ว่าการรัฐเท็กซัซประกาศภาวะภัยพิบัติทั้ง 60 เขตแล้ว
ในเวลานี้ พื้นที่ราว 26 เขตในรัฐเท็กซัส ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับไฟป่าที่เลวร้ายที่สุดเป็นอันดับสองของรัฐ โดยไฟป่าที่เกิดขึ้นตอนนี้มีหลายจุด เริ่มลุกไหม้ตั้งแต่บ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา
แถมลุกลามอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสภาพอากาศที่อบอุ่น แห้ง และลมแรงผิดปกติ แม้ว่าจะมีความพยายามของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในการระดมกำลังอย่างหนักเพื่อดับไฟ แต่ไฟป่าก็ยังคงลุกไหม้อยู่ในขณะนี้
จุดที่เลวร้ายที่สุดมีชื่อว่า Smokehouse Creek fire ซึ่งเริ่มลุกไหม้ตั้งแต่บ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น และภายในเวลาเพียง 28 ชั่วโมง ไฟป่าในจุดนี้ก็เผาผลาญพื้นที่ไปได้ถึงราว 632,000 ไร่ และจนถึงขณะนี้ เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 2 ล้านไร่
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกร็ก แอบบ็อต ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสได้ประกาศภาวะภัยพิบัติใน 60 เขต โดยเขาได้สั่งการให้หน่วยงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐเท็กซัส ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 95 นายและบุคลากรลงพื้นที่ปิดถนน ดูแลการจราจร ให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์
นอกจากในรัฐเท็กซัสแล้ว ไฟป่ายังเกิดขึ้นในรัฐโอคลาโฮมาที่อยู่ข้างเคียง โดยทั้งสองรัฐในเวลานี้กลายมาเป็นศูนย์กลางของไฟป่า ขณะที่หน่วยงานบริการป่าไม้ A&M เท็กซัสคาดการณ์ว่า สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้เพียงแค่ 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ไฟป่าจุดที่มีขนาดใหญ่รองลงมาคือ Windy Deuce fire ซึ่งเริ่มลุกไหม้ขึ้นเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เผาผลาญพื้นที่ไปราว 359,000 ไร่ แต่จุดนี้สามารถควบคุมเพลิงไปได้แล้วราว 30 เปอร์เซ็นต์
รายงานระบุว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเริ่มเกิดไฟป่า อากาศที่เมืองคิลลีน เมืองดัลลัส และเมืองอามาริลโล รัฐเท็กซัส อยู่ที่ 37,33 และ 27 องศาเซลเซียสตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าอากาศตามปกติของเดือนกุมภาพันธ์ถึงราว 6 องศาเซลเซียส
ผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นเชื่อกันว่า อากาศร้อนผิดปกตินี้ทำให้ความชื้นในอากาศหายไป ต้นไม้ขาดความชุ่มชื่น และเป็นเชื้อเพลิงให้เกิดการลุกไหม้ขึ้น ขณะที่ลมอันร้อนและแห้งก็พัดผ่าน และที่เมืองอามาริลโลก็เกิดลมกระโชกแรงถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในช่วงเกิดไฟป่า ขณะที่ความชื้นลดลง 15-20 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อุณหภูมิเริ่มลดลง และลมเริ่มลดความเร็ว ช่วยชะลอการลุกลามของไฟป่าได้ ขณะที่คาดการณ์กันว่า ฝนน่าจะตกลงมาเพื่อช่วยดับไฟป่า อย่างไรก็ตาม ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ก็คาดการณ์ว่า อุณหภูมิจะกลับมาสูงขึ้นและลมจะเริ่มแรงอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการดับไฟ
ที่มา: Aljazeera
ข่าวที่เกี่ยวข้อง