โลกร้อนน่ากลัวกว่าที่คิด เพราะน้ำแข็งขั้วโลกเหนือที่เริ่มละลายจากภาวะโลกร้อน อาจกลายเป็นชนวนให้เชื้อไวรัสโบราณที่ถูกแช่แข็งเอาไว้ กลับมาระบาดอีกครั้ง
เดอะ เยรูซาเล็ม โพสต์ รายงานว่า ไวรัสโบราณหลายตัวที่แช่แข็งอยู่ใต้ “พอร์มาฟรอสต์” หรือพื้นดินที่เป็นน้ำแข็งของอาร์กติก หรือ ขั้วโลกเหนือ และ วันหนึ่งมันอาจจะถูกปลดปล่อยออกมาเพราะปัญหาโลกร้อน และอาจทำให้เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ เดอะ การ์เดียน สื่อของอังกฤษรายงานอ้างผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ว่า โรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นนี้ เกิดจากเชื้อโรคที่มีชื่อว่า “เมธูเซลาห์” หรือที่นักวิทยาศาสตร์ขนานนามว่าเป็นไวรัสซอมบี้ โดยตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้แยกมันออกจากสารตัวอื่นๆเพื่อทำการศึกษา อันเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายเฝ้าสังเกตการณ์อาร์กติก ที่ทำหน้าที่ตรวจจับล่วงหน้าในกรณีที่พบโรคอันเกิดจากเชื้อโรคโบราณ
เครือข่ายดังกล่าวทำหน้าที่กักกันและให้การรักษาคนที่ติดเชื้อ เพื่อควบคุมการระบาดและ ป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อออกจากพื้นที่ดังกล่าว
ฌอง ไมเคิล คลาเวอรี นักพันธุศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Aix-Marseille University ในฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ในเวลานี้ การวิเคราะห์ภัยคุกคามจากโรคระบาดจะมุ่งเน้นไปที่โรคที่อาจเกิดขึ้นได้ในพื้นที่ทางตอนใต้ และหลังจากนั้นก็อาจจะแพร่ระบาดขึ้นเหนือ โดยมีไวรัสที่ถือกำเนิดขึ้นที่นั้นและมีความเป็นไปได้ที่จะติดต่อสู่มนุษย์ หลังจากนั้นก็จะทำให้เกิดการระบาดของโรคใหม่
มาเรียง คูปแมนส์ นักไวรัสวิทยา แห่งศูนย์การแพทย์เอราสมุส แสดงความคิดเห็นว่า เราไม่ทราบว่าไวรัสอะไรที่อยู่ใต้น้ำแข็งที่นั้น แต่เขาคิดว่า มีความเสี่ยงที่อาจจะมีไวรัสสักตัวที่มีศักยภาพมากพอในการก่อให้เกิดโรคระบาดขึ้น เช่น ไวรัสโปลิโอโบราณ เราต้องตั้งสมมติฐานไว้ก่อนว่าอาจจะมีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นได้
เมื่อปี 2014 คลาเวอรี ซึ่งนำทีมนักวิทยาศาสตร์ในแยกวิเคราะห์ไวรัสมีชีวิตตัวหนึ่งจากไซบีเรีย ซึ่งถูกฝังเอาไว้ใต้พื้นน้ำแข็งมานานหลายพันปี พวกเขาพบว่า มันยังคงสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้ โดยในงานวิจัยเพิ่มเติมที่มีการตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วระบุว่า มีการไปพบสายพันธุ์ของไวรัสที่แตกต่างกันหลายตัว ในพื้นที่ต่างๆ 7 แห่งของไซบีเรีย การค้นพบนี้พิสูจน์ว่า สายพันธุ์ไวรัสเหล่านั้นสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในเซลล์ได้ ในการเพาะเลี้ยงเซลล์ภายในหลอดทดลอง แม้ว่าตัวอย่างไวรัสจะมีอายุเก่าแก่ถึง 48,500 ปี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไวรัสเหล่านั้นจะสามารถติดเชื้อได้เฉพาะภายในการเพาะเลี้ยงเซลล์และในจุลินทรีย์ แต่ก็ยังคงมีความเป็นไปได้ที่มันอาจทำให้เกิดอาการป่วยในมนุษย์ได้
เพอร์มาฟรอสต์เป็นพื้นดินแช่แข็ง หรือ ชั้นดินเยือกแข็งคงตัว อยู่ลึกลงไปใต้พื้นดิน เกิดจากการที่ดินมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ขั้วโลกเหนือกำลังละลายจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การลดลงของน้ำแข็งในทะเลอาร์กติก อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการทำเหมือง ซึ่งจะมีการขุดดินลงไปในชั้นเพอร์มาฟรอสต์ เพื่อหาน้ำมันและแร่ต่างๆ ความเคลื่อนไหวเหล่านั้นอาจจะปลดปล่อยเชื้อโรคจำนวนมากที่ถูกแช่แข็งอยู่ที่นั้น คนงานเหมืองอาจจะเดินผ่านและสูดดมไวรัสเข้าไปก็เป็นได้ และผลกระทบของมันก็อาจจะกลายเป็นหายนะ
ที่มา : Thejerusalem
ข่าวที่เกี่ยวข้อง