ชาว นิวยอร์ก เฮ! ได้สัมผัส "หิมะแรก" ในรอบ 700 วัน หรือราว ๆ 2 ปี หลังภาวะโลกรวนทำสภาพอากาศแปรปวนหนัก มิหนำซ้ำยังเจอเอลนีโญซัดเพิ่มไปอีกระลอก ติดตามได้ที่บทความนี้
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปี 2023 นั่นคือครั้งล่าสุดที่มีการรายงานว่า นิวยอร์กไม่มีหิมะตกมาแล้วกว่า 321 วัน ซึ่งเป็นสถิติยาวนานที่ยาวนานที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมา
สถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ ชาวนิวยอร์กเองก็คลางแคลงใจ จน ‘แอนดรูว์ ครูซกีวิกซ์’ นักวิจัยจากสถาบันจากสภาพอากาศ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า สภาพอากาศนิวยอร์กอุ่นแบบ ถือเป็นเรื่องผิดปกติ และพวกเราควรตระหนักว่ามันไม่ปกติ
ทว่า หลังจากนั้นเหมือนเรื่องนี้ก็ถูกหลงลืมไป ชาวเมืองไปใช้ชีวิตของตัวเอง ออกไปเดินสวนเขียว แสงแดดทอดกระทบหน้า และใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศที่ไร้หิมะอยู่เช่นนั้น
ถือเป็นข่าวดี เมื่อสื่อหลายสำนัก รายงานว่า นิวยอร์กได้สัมผัสกับ "หิมะแรก" แล้ว! เป็นอันจบสิ้นสถิติ 700 วัน ที่มหานครแห่งนี้ไร้หิมะ ชาวเมืองดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ แม้อากาศจะหนาวยะเยือกถึงกระดูก แต่ต่างออกมาร่วมเฉลิมฉลองกับ “สภาพแวดล้อมสีขาว”
“ครั้งล่าสุดที่บันทึกว่าชั้นหิมะใน Central Park หนาเกินหนึ่งนิ้วคือเมื่อ 701 วันที่แล้ว” กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ ประกาศผ่าน X
กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ ระบุเพิ่มว่า หิมะจะตกหนักลงมาเรื่อย ๆ และชั้นหิมะประมาณ 2 - 4 นิ้ว หลังจากนั้นสภาพอากาศของรัฐนิวยอร์ก ก็จะสภาพอากาศอุ่นขึ้น
ขณะเดียวกัน เมืองอื่น ๆ ของรัฐนิวยอร์กอย่าง บัฟฟาโล (Buffalo) มีหิมะหนาถึง 1 - 3 ฟุต ภายในชั่วข้ามคืนอันเนื่องมาถูกพายุหิมะพัดถล่ม
ชนวนเหตุที่มหานครแห่งนี้ไร้หิมะ เกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่หลัก ๆ แล้ว เป็นผลพวงมาจากภาวะโลกรวน ที่ทำให้สภาพอากาศสูงขึ้น ทำให้การเกิดฤดูกาลที่ยึดติดกับวันและเวลาจะแปรปรวน และไม่เป็นไปในแบบที่เราเข้าใจ
ที่จริงต้องบอกว่า ระหว่างช่วงต้นเดือนมกราคมเครื่องมือตรวจจับสามารถรับรู้ถึงหิมะที่ตกมายังนิวยอร์กแล้ว แต่นั่นหิมะที่ตกมานั้นบางเบาเกินไป โดยวัดความหนาได้ 0.1 นิ้วเท่านั้น ซึ่งมิอาจเรียกว่า "หิมะแรก" ได้
อีกหนึ่งเหตุผลคือ ปรากฏการณ์เอลนีโญที่มีส่วนทำให้อากาศของ นิวยอร์ก แปรปรวน หิมะควรตก กลับไม่ตก พอมาถึงฤดูฝน นิวยอร์กกลับเจอฝนตกหนัก จนส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น
ตั้งแต่เปิดปีใหม่ สหรัฐต้องเจอกับพายุหิมะที่เคลื่อนตัวมาจากภาคตะวันตกเฉียงเหนือ พัดถล่มอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้หลาย ๆ รัฐ ต้องรับมือกับหิมะท่วม กระทบไปถึงสายการบิน ที่ต้องดีเลย์ไปร่วม ๆ 7,600 เที่ยวบินแล้ว
ตัวอย่างเช่น รัฐไอโอวา (Iowa) เป็นพื้นที่ซึ่งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรค Republican จำต้องยกเลิกกิจกรรมหาเสียงออกไป เพราะสภาพอากาศที่เลวร้าย
ที่บอกว่าเลวร้ายก็เพราะอุณหภูมิติดลบ 40 องศาเข้าไปแล้ว ทำให้ขณะนี้ไฟฟ้าดับ หลายหมื่นครัวเรือนต้องอยู่ในสภาวการณ์ไร้น้ำไร้ไฟและไร้อากาศอบอุ่น
ขณะที่เมืองพอร์ตแลนด์ (Portland) ในรัฐออริกอน (Oregon) ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่เจอฝนมากกว่าหิมะ แต่ในครั้งนี้ต้องเจอกับหิมะถล่มรุนแรง ต้นไม้หลายต้นถูกลมกระโชกแรงจนโค่นลง และรุนแรงที่สุด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
รัฐนอร์ทดาโกตา (North Dakota) ต้องเจอกับลมหนาวทำให้อากาศติดลบถึง 56 องศาเซลเซียส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง