ทำความรู้จัก ปรากฏการณ์ Atmospheric River (AR) หรือ แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ เหตุการณ์ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนมากมายในแคลิฟอร์เนีย ในเวลานี้
แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ คืออะไร ?
เหตุการณ์ที่ชาวเมืองรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯที่ต้องเจออยู่ คือ เหตุการณ์ Atmospheric River (AR) หรือ ‘แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ’ ซึ่งไม่ใช่ชื่อเรียกของแม่น้ำสายไหน ที่อยู่บนพื้นโลกใบนี้
แต่เป็นชื่อเรียกของกระแสไอน้ำในชั้นบรรยากาศ ที่มีความกว้างประมาณ 400 - 600 กิโลเมตร เป็นกระแสไอน้ำตามธรรมชาติที่ไหลเวียนเป็นแนวยาว เหมือนแม่น้ำบนท้องฟ้า ที่คอยพัดพานำความชุ่มชื้นไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลก ซึ่งอาจอยู่ไกลนับพันกิโลเมตร
แม้ ว่ามนุษย์เรา จะไม่สามารถมองเห็น “แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ" (Atmospheric River) ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลกระทบของ “แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ" (Atmospheric River) กว้างไกลกว่าแค่ในสหรัฐฯ แคนาดา หรือฮาวาย หรือที่แคลิฟอร์เนีย เผชิญอยู่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
โดย เมื่อ 3 ปีที่แล้ว นักวิจัยพบว่า “แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ" (Atmospheric River) มีส่วนในการทำให้เกิดช่องโหว่ขนาดมหึมา บนผืนน้ำแข็งแถบขั้วโลกใต้ ในปรากฏการณ์ที่เรียกว่า โพลีเนีย (Polynya) ซึ่งมีส่วนในการทำให้โลกร้อนขึ้น เพราะขาดพื้นผิวสีขาวที่ช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์กลับไปยังอวกาศ โดย หาก AR หรือ แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ มีความรุนแรงมาก ก็สามารถก่อให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่ม ที่อาจนำไปสู่ความเสียหายในระดับใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทะเลสาบน้ำอุ่น อิสซีค คูล ในคีร์กีซสถาน กลายเป็นน้ำแข็ง เจออุณหภูมิ -30 °C
กาแฟอัพไซเคิลจากเมล็ดแตงโม เปลือกไม้ อร่อยไม่ทำร้ายโลก ลดปล่อยคาร์บอน 93%
แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ ส่งผลกระทบต่อแคลิฟอร์เนีย
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พายุยังถล่มรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นลูกที่ 8 ของฤดูกาลแล้ว ทำให้ฝนตกอย่างหนักตั้งแต่เช้าวันเสาร์ (14 มกราคม 2023 ) ซึ่งจากคำพยากรณ์อากาศในรอบสัปดาห์ มีการคาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มในพื้นที่ภาคเหนือของแคลิฟอร์เนียอีก แต่ขณะเดียวกัน ปรากฏการณ์แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ หรือ (Atmospheric River) ครั้งที่ 9 ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้าย มีโอกาสจะเกิดขึ้นอีกในวันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2023 และใช้เวลานานอีก 2 วัน ในการเกิดปรากฏการณ์
โดย ปรากฏการณ์แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ ที่เกิดถี่และบ่อยขึ้น ในช่วงนี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในรัฐแคลิฟอร์เนียมาตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2022 ลากยาวจนมาถึงช่วงเวลานี้
และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ทำให้ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 19 คน รวมถึงเกิดไฟฟ้าดับ ดินถล่ม ต้องอพยพผู้คนและปิดถนน โดยคาดว่าจะยังเกิดสภาพอากาศแปรปรวนแบบนี้อีกหลายวัน
ทั้งนี้ สิ่งที่น่ากังวลจากเรื่องนี้ก็คือ นักวิจัยคาดว่าเมื่ออุณหภูมิเฉลี่ยโลกเพิ่มขึ้น ปรากฏการณ์แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ ก็จะมีขนาดใหญ่กว่าเดิม และทำให้ฝนหรือหิมะที่เกิดนั้น เกิดบ่อยขึ้น รุนแรงขึ้น และกินเวลายาวนานกว่าที่เคย เนื่องจากอากาศร้อนสามารถกักเก็บไอน้ำได้มากกว่าอากาศเย็น โดยมีการคาดการณ์ว่าในอนาคต อัตราการเกิดของแม่น้ำในบรรยากาศจะเพิ่มขึ้นมาถึง 50% เลยทีเดียว
ที่มา noaa.gov