สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐ (NWS) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศเลวร้ายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ว่า ภูมิภาคทางเหนือ จะยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนัก และต้องเจอภัยจากบอมบ์ไซโคลน อีก แม้ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จะเจอผลกระทบมาแล้วรอบหนึ่ง
สภาพอากาศอันแปรปรวนซึ่งแน่นอนว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือ Climate Change และตอนนี้ ปัญหาเหล่านี้ก็กำลังเล่นงานหลายๆพื้นที่ทั่วโลกจนอ่วม อาทิ ที่แคลิฟอร์เนีย ซึ่ง สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐ (NWS) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศเลวร้ายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ว่า ภูมิภาคทางเหนือ จะยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนัก และต้องเจอภัยจากบอมบ์ไซโคลน อีก แม้ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จะเจอผลกระทบมาแล้วรอบหนึ่ง
ปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน อันเนื่องมาจากความผิดเพี้ยนของสภาพอากาศ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆอีกต่อไปแล้ว และทุกคนต้องตระหนักกันแล้ว โดย ปัจจุบัน พื้นที่ 2 ใน 3 ของแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในสหรัฐฯ ต้องอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และกระแสลมกระโชกแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้แก่ครัวเรือนและสถานประกอบกิจการ รวมมากกว่า 60,000 แห่ง
ทั้งนี้ รายงานของ MWS วัดประมาณน้ำฝนที่เมืองซานฟรานซิสโก สะสมระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. ถึง 4 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้ 10.3 นิ้ว ถือเป็นสถิติสูงที่สุดในรอบ 152 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1870
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่วนสถิติปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดต่อเนื่องภายในช่วงเวลา 10 วันของเมืองซานฟรานซิสโก อยู่ที่ 14.37 นิ้ว เมื่อปี 2405
ขณะเดียวกัน NWS พยากรณ์หิมะจะตกหนักในภูมิภาคหุบเขาของรัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมทั้งเตือนภัยการเกิดดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภูมิภาคที่เคยประสบกับความเดือดร้อนจากไฟป่า และเคยได้รับอิทธิพลรุนแรงของพายุมรสุม ซึ่งรวมถึงเขตทางเหนือ ที่มีการเตือนภัยคลื่นพายุซัดฝั่งสูงหลายเมตรด้วย
Tonight in California, a state of emergency remains in effect with more than 100,000 still without power after heavy rains and catastrophic flood waters pounded the state. The death toll also continues to grow, including a toddler who died when a tree fell on his home. pic.twitter.com/Z9sucdCxnS
— CBS Evening News (@CBSEveningNews) January 5, 2023
ทั้งนี้ แคลิฟอร์เนีย เผชิญกับอิทธิพลของ “บอมบ์ไซโคลน” ระลอกใหม่ ซึ่งหมายถึงสภาพอากาศเลวร้ายที่เป็นผลจากความกดอากาศต่ำเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และแผ่ขยายอิทธิพลออกเป็นวงกว้าง ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา โดยนายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้ ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 6 ราย.
พายุลูกนี้ที่กำลังเล่นงานแคลิฟอร์เนีย เกิดจาก 2 ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นซ้อนทับกัน ได้แก่ กระแสของไอน้ำที่มีชื้นหนาแน่นไหลเวียนและพัดพาเอาความชุ่มชื้นไปทำให้เกิดพายุฝนในส่วนต่าง ๆ ของโลก หรือที่เรียกว่า แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ" (Atmospheric river) ประกอบกับพายุที่เกิดจากความกดอากาศต่ำที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว หรือที่รู้จักกันในชื่อ บอมบ์ไซโคลน (bomb cyclone) ซึ่งคาดว่าปรากฎการณ์ทับซ้อนกันในครั้งนี้ เป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศหรือ Climate change นั่นเอง