สาธารณสุขแคลิฟอร์เนีย กำลังพิจารณากลับมาบังคับสวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง หลังยอดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา กำลังพิจารณามาตรการควบคุมโควิด-19 ด้วยการกลับมาบังคับสวมหน้ากากอนามัยในอาคารอีกครั้ง หลังยอดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง จากเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย ทั้ง 2 สายพันธุ์ อย่าง BA.4 และ BA.5 ที่เชื้อสามารถแพร่ระบาดได้สูงกว่า
โดยทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) ระบุว่า ทั้ง 58 เทศมณฑลของแคลิฟอร์เนียมี 38 แห่งจัดเป็นชุมชนเสี่ยงสูงต่อโควิด-19
ทางด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลอสแอนเจลิส เผยว่า ลอสแอนเจลิสอาจถูกจัดเป็นชุมชนเสี่ยงสูงต่อโควิด-19 ช่วงปลายสัปดาห์ถัดไป และจะมีการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะหากอยู่ในระดับเสี่ยงสูงนาน 14 วัน
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
บาร์บารา เฟอร์เรอร์ (Barbara Ferrer) ผู้อำนวยการสาธารณสุขลอสแอนเจลิส กล่าวว่า จะมีการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในอาคารทั่วทั้งเทศมณฑลฯ โดยขณะนี้ทุกคนกำลังเผชิญความเสี่ยงป่วยโควิด-19 มากขึ้น เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากขึ้นที่ติดเชื้อไวรัสฯ และสามารถแพร่เชื้อแก่ผู้อื่นได้เมื่อมีการรวมตัว ชอปปิง หรือร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
สำนักสาธารณสุขลอสแอนเจลิส รายงานว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล อยู่ที่ 1,021 ราย ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. ส่วนจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตรายวันอยู่ที่ 18 ราย สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. โดยอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของลอสแอนเจลิสเพิ่มขึ้น 62% ตั้งแต่เดือนที่แล้ว