ทำความรู้จัก “สวนเพลินจิต” สวนสาธารณะแห่งใหม่ ที่เปรียบเสมือนโอเอซิสสีเขียว จากพื้นที่รกร้างสู่ปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ เปิดบริการ 05.00-22.00น. เดินทางสะดวกใกล้จุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ
สวนเพลินจิต สวนสาธารณะแห่งใหม่ ดัดแปลงจากพื้นที่รกร้างสู่ปอดแห่งใหม่ใจกลางเมือง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแล กระทรวงคมนาคม ได้ปรับปรุงพื้นที่เช่าที่ดินที่เป็นที่ดินรกร้างเลียบทางรถไฟทางด่วนเพลินจิตมาใช้ประโยชน์ เชื่อมให้การใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนง่ายมากขึ้น มีการคมนาคมสะดวกสบาย ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง สามารถเข้าถึงได้ง่าย เพราะมีจุดเชื่อมต่อถนนพระราม 4 ถึงถนนสุขุมวิท เป็นทางลัดเชื่อม ทั้งสวนสาธารณะ สวนลุมพินี และ สวนป่าเบญจกิติ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจ ใกล้จุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ คือ รถไฟฟ้า BTS และ รถไฟฟ้า MRT ซึ่ง ทำให้เดินทางง่าย รายล้อมด้วยอาคารสำนักงาน ย่านที่พักอาศัย แหล่งชุมชน สามารถอำนวยความสะดวกได้เต็มที่และมีความคล่องตัวมากขึ้น เปิดให้บริการตั้งแต่ 05.00 – 22.00 น.
ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ
และที่สำคัญที่สุด ทุกพื้นที่ของ "สวนเพลินจิต" ล้วนเต็มไปด้วยความปลอดภัย เนื่องจากมีการติดตั้งระบบกล้อง CCTV ตรวจจับหลังจากเวลาปิดสวน (22.00 น.) ระบบไฟฟ้าส่องสว่างตลอดเส้นทาง มีกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้น และมีประกันอุบัติเหตุให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ มีทางสำหรับผู้พิการ มีฟิสเนสและห้องน้ำบริการฟรีสำหรับประชาชนที่มาใช้บริการ รวมทั้งมีพนักงานรักษาความปลอดภัยที่จะสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการอย่างเต็มที่ เชื่อแน่ว่าจะเป็นอีกหนึ่งสวนสาธารณะในกลางเมืองที่พรั่งพร้อมและได้รับความนิยมจากคนกรุงเทพฯและนักท่องเที่ยว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า สวนสาธารณะ “สวนเพลินจิต” สวนสาธารณะแห่งใหม่ของชาวกรุงเทพฯ ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่นำไปสู่การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี และสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับประชาชนโดยรวมไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง ช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ตลอดจนการเป็นปอดแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงใช้สำหรับออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ที่จะช่วยสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชนทุกคนเท่านั้น หากแต่ยังจะเป็นสวนสาธารณะที่ช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น,ร่างกายที่ดีขึ้น ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่เพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปพร้อมกันด้วย และเมื่อในท้ายที่สุดก็จะส่งผลทำให้เมืองมีความน่าอยู่ขึ้น คุณภาพชีวิตของคนในเมือง และเศรษฐกิจ สังคมโดยรวมก็จะยกระดับไปสู่อนาคตที่สดใสได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำการลงมือพัฒนา พื้นที่บริเวณริมทางพิเศษ ช่วงเพลินจิต-พระราม 4 ให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ และส่งเสริมให้เกิดการออกกำลังกาย เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี ในทุก เพศทุกวัยอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้ชื่อ “สวนเพลินจิต” ที่เปรียบเสมือนโอเอซิสสีเขียว ปอดแห่งใหม่ของชาวกรุง ซึ่งสวนแห่งนี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ด้วยการออกกำลังกาย พร้อมทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างมีความสุข และปลอดภัย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญของสวนเพลินจิต ท้ายที่สุด การรถไฟแห่งประเทศไทย เชื่อมั่นว่า พื้นที่แห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งสวนสาธารณะใจกลางเมืองที่เพียบพร้อม สามารถสร้างประโยชน์ เพื่อมอบคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้นให้กับคนเมือง และพร้อมที่จะผลักดันโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยให้มากขึ้น
โดยมีพื้นที่เป้าหมายต่อไปคือพื้นที่สถานีจิตรลดา ของระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ส่วนต่อขยาย) ช่วงบางซื่อ -หัวลำโพง ซึ่งจะได้รับการตอบรับที่ดีจากคนกรุงเทพฯ ในอนาคตข้างหน้านี้ได้อย่างแน่นอน