‘แสงแดด’ ขุมทรัพย์ในการผลิตไฟฟ้าใช้เองของวัดป่าศรีแสงธรรม จ.อุบล

วัดป่าศรีแสงธรรม มีขุมทรัพย์อันล้ำค่า ที่สามารถช่วยให้วัดประหยัดไฟฟ้า และยังสร้างประโยชน์ได้อีกมากมาย นั่นคือ แสงแดดอันร้อนแรง พลังงานจากแสงอาทิตย์นี้เองที่ทำให้วัดในพื้นที่ห่างไกล อย่างวัดป่าศรีแสงธรรม ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี สามารผลิตไฟฟ้าใช้ได้เองภายในวัด อีกทั้งพระปัญญาวชิรโมลี (นพพร) เจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ ยังได้นำความรู้ไปสอนให้กับเด็กนักเรียนพร้อมกับเผยแพร่ความรู้ให้กับชุมชนรอบๆ และชุมชนอื่นด้วย

จุดเริ่มต้นของการใช้ประโยชน์จากแสงแดด คือการซ่อมอุปกรณ์ของใช้ที่รับบริจาคของมือสองมา ซึ่งรวมถึงแผงโซลาร์เซลล์เก่า เมื่อบวกกับประสบการณ์ฝีมือช่างซ่อมแซมของพระปัญญาวชิรโมลี (นพพร) จึงทำให้แผงโซลาร์เซลล์เก่าเกิดประโยชน์ได้อย่างมหาศาล โดยผลิตไฟฟ้าใช้งานได้เอง ซึ่งกระแสไฟฟ้าที่เหลือจากที่โรงเรียน ก็ต่อไปใช้ที่วัดและกระจายไปถึงชุมชนรอบข้างจนพัฒนาสู่โครงการปันแสง

จากนั้นจึงได้จัดตั้งโรงเรียนเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ลูกหลานชาวบ้านในพื้นที่ ให้ได้เรียนรู้บนฐานวิทยาการสมัยใหม่สร้างคุณภาพชีวิตอย่างพอเพียง 

เนื้อหาที่น่าสนใจ :

• อิตาลีผุดไอเดีย โซลาร์เซลล์ล่องหน กลมกลืนกับอาคารโบราณ

• เปิดวิธีขายคืนไฟฟ้าให้รัฐจาก โซลาร์เซลล์ (Solar Rooftop) ทำอย่างไร?

• ข้อดีประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์ ติดโซลาร์เซลล์ ลดค่าไฟในบ้าน จริงไหม

เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าด้วยโซลาร์เซลล์ มีสเกลที่ใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างประโยชน์ให้กับวัดและชุมชนอย่างยั่งยืน จึงได้มีการร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยแก้ปัญหาและเติมเต็มในบางจุด เช่น กฟผ. ได้เข้ามาช่วยพัฒนาระบบไมโครกริด และการบริหารจัดการพลังงานเข้ามา ซึ่งจะช่วยขยายประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติมนอกจากแสงสว่าง อย่าง นำพลังงานมาสร้างประโยชน์ในโครงการอื่นๆ เช่น เครื่องสูบนํ้า รถเข็นนอนนา สร้างช่างฝีมือแผงโซลาร์เซลล์ นั่นทำให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นหมู่บ้านที่มีความั่นคงทางพลังงาน

ที่วัดป่าศรีแสงธรรมยังมีศูนย์การเรียนรู้และวิจัยการใช้ประโยชน์พลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับชาวบ้าน และชุมชนท้องถิ่นในรูปแบบต่างๆ แบ่งปันความรู้ด้านพลังงานสะอาดให้กับพื้นที่อื่นๆ ให้สามารถใช้ประโยชน์จากแสงดแดด ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์มีทุกพื้นที่ในประเทศ ดังนั้นทุกคนก็สามารถใช้ประโยชน์จากแสงแดดได้เช่นกัน