svasdssvasds

Ant Group เผยลดต้นทุนเทรนโมเดล AI ลง 20% ใช้ชิปจีนแทนชิป Nvidia

Ant Group เผยลดต้นทุนเทรนโมเดล AI ลง 20% ใช้ชิปจีนแทนชิป Nvidia

Ant Group อ้างว่า สามารถลดต้นทุนการเทรนเดล AI ลงได้ถึง 20% ด้วยชิปจาก Alibaba และ Huawei ซึ่งให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับชิปของ Nvidia

“Ant Group” บริษัทฟินเทคยักษ์ใหญ่ของจีน อ้างว่า สามารถลดต้นทุนการเทรนเดล AI ลงได้ถึง 20% ด้วยชิปจาก Alibaba และ Huawei ซึ่งให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับชิปของ Nvidia หากชิปจีนเหล่านี้ได้รับความนิยม อาจส่งผลกระทบต่อการครองตลาดของ Nvidia ในฐานะผู้นำด้านชิป AI
 
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา การมาถึงของ DeepSeek โมเดล AI สัญชาติจีน เคยทำให้หุ้นของ Nvidia บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ร่วงลงชั่วคราว เนื่องจากกระแสคาดการณ์ว่าโมเดลของบริษัทใช้ชิปน้อยกว่าที่คิด

ล่าสุด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่ระบุว่า บริษัท Ant Group บริษัทฟินเทคยักษ์ใหญ่ของจีนที่ได้รับการสนับสนุนจาก “แจ็ก หม่า” ผู้ก่อตั้ง Alibaba ใช้ชิปที่ผลิตในประเทศ รวมถึง ชิปจากบริษัทในเครือ Alibaba Group Holding Ltd. และ Huawei Technologies Co. เพื่อพัฒนาเทคนิคการเทรนโมเดล AI ซึ่งสามารถลดต้นทุนลงได้ถึง 20%

Ant Group เผยลดต้นทุนเทรนโมเดล AI ลง 20% ใช้ชิปจีนแทนชิป Nvidia

Ant ใช้ชิปจากบริษัทในแดนมังกร ในการเทรนโมเดล AI โดยใช้ Mixture of Experts (MoE) สำหรับการเรียนรู้ของเครื่องที่รวมเอาโมเดลผู้เชี่ยวชาญหลายตัวเข้าด้วยกันเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ และพบว่าให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับชิปของ Nvidia อย่าง H800 หนึ่งในชิปประสิทธิภาพสูงที่สหรัฐฯ ห้ามการส่งออกไปยังจีน

นอกจากนี้ แม้ว่า Ant จะยังคงใช้ชิปของ Nvidia ในการพัฒนา AI แต่ก็กำลังหันไปใช้ชิปทางเลือกอื่น รวมถึง ชิปจาก Advanced Micro Devices Inc. และชิปจากบริษัทจีนเพิ่มมากขึ้นสำหรับโมเดลใหม่ล่าสุดของบริษัท

โมเดล AI ของ Ant เป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขันระหว่างบริษัทจีนและสหรัฐฯ ที่เข้มข้นขึ้น นับตั้งแต่ DeepSeek ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพ สามารถเทรนได้โดยใช้ต้นทุนน้อยกว่าเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่ OpenAI และ Google ของ Alphabet Inc. ได้ลงทุนไป ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนพยายามหันไปใช้ทางเลือกอื่นในประเทศแทนการใช้เซมิคอนดักเตอร์ของ Nvidia อันล้ำสมัย

Ant Group เผยลดต้นทุนเทรนโมเดล AI ลง 20% ใช้ชิปจีนแทนชิป Nvidia

บริษัทได้เผยแพร่รายงานวิจัยออกมาในเดือนนี้ ซึ่งอ้างว่าโมเดล AI ของบริษัทสามารถทำงานได้ดีว่าโมเดลของ Meta Platforms Inc ในบางการทดสอบ อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวบลูมเบิร์กยังไม่ได้ตรวจสอบคำกล่าวอ้างนี้โดยอิสระ แต่หากแพลตฟอร์มของ Ant ทำงานได้ตามที่โฆษณาไว้ ก็อาจเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของจีน โดยช่วยลดต้นทุนของการอนุมานหรือสนับสนุนบริการ AI

Ant Group เผยลดต้นทุนเทรนโมเดล AI ลง 20% ใช้ชิปจีนแทนชิป Nvidia

โมเดล MoE และผลกระทบต่อ AI ของจีน 

ในขณะที่บริษัทต่าง ๆ ลงทุนจำนวนมหาศาลไปกับ AI ทำให้ โมเดล MoE กลายมาเป็นตัวเลือกยอดนิยมและได้รับการยอมรับจากบริษัท อย่าง Google และสตาร์ทอัพ DeepSeek ในหางโจว เป็นต้น โดยเทคนิคนี้จะแบ่งงานออกเป็นชุดข้อมูลขนาดเล็ก คล้ายกับการมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่แต่ละคนมุ่งเน้นไปที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของงาน ทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การเทรนโมเดล MoE มักต้องใช้ชิปประสิทธิภาพสูง เช่น GPU ของ Nvidia ซึ่งมีต้นทุนสูงและจำกัดการเข้าถึงสำหรับบริษัทขนาดเล็ก ทำให้ Ant จึงพยายามหาวิธีพัฒนาแนวทางลดข้อจำกัดด้านต้นทุนที่ใช้ในการเทรนโมเดล LLMs (Large Language Models) อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพา GPU ระดับพรีเมียม

แนวทางนี้สวนทางกับกลยุทธ์ของ “เจนเซน หวง” (Jensen Huang) ซีอีโอของ Nvidia ที่ให้เหตุผลว่าความต้องการในการประมวลผลจะเพิ่มขึ้นต่อไป แม้จะมีโมเดลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่าง R1 ของ DeepSeek โดยมองว่า บริษัทต่าง ๆ จะต้องการชิปที่ดีกว่าเพื่อสร้างรายได้ที่มากขึ้น ไม่ใช่ชิปราคาถูกลงเพื่อลดต้นทุน ทำให้ Nvidia ยังคงยึดกลยุทธ์ในการผลิต GPU ขนาดใหญ่ที่มีคอร์ประมวลผลมากขึ้น ทรานซิสเตอร์จำนวนมากขึ้นและความจุของหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้น

Bloomberg Intelligence มองว่า งานวิจัยของ Ant Group เน้นย้ำถึงนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้นและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เร่งตัวขึ้นในภาคอุตสาหกรรมด้าน AI ของจีน หากคำกล่าวอ้างของบริษัทได้รับการยืนยัน ก็จะเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าจีนกำลังก้าวไปสู่ความพึ่งพาตนเองด้าน AI ด้วยการหันมาใช้โมเดลที่มีต้นทุนต่ำและมีประสิทธิภาพด้านการประมวลผล เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปของ Nvidia
 

รายงานของ Ant ระบุด้วยว่า การเทรนโมเดลจำนวน 1 ล้านล้านโทเคนด้วยฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูงมีต้นทุนราว 6.35 ล้านหยวน (880,000 ดอลลาร์) แต่ด้วยแนวทางที่ปรับปรุงใหม่จะช่วยลดต้นทุนลงเหลือเพียง 5.1 ล้านหยวน

Ant Group เผยลดต้นทุนเทรนโมเดล AI ลง 20% ใช้ชิปจีนแทนชิป Nvidia

ความก้าวหน้าด้าน AI ของ Ant

บริษัทมีแผนที่จะใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าล่าสุดในโมเดล LLM ที่พัฒนาขึ้นเอง ได้แก่ Ling-Plus และ Ling-Lite สำหรับโซลูชัน AI เชิงอุตสาหกรรม เช่น ด้านการดูแลสุขภาพและการเงิน

Ant ได้เข้าซื้อแพลตฟอร์มออนไลน์ของจีน Haodf.com ในปีนี้ เพื่อเสริมบริการปัญญาประดิษฐ์ในด้านการดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาโมเดล AI Doctor Assistant เพื่อช่วยเหลือแพทย์กว่า 290,000 คนบนแพลตฟอร์ม Haodf ในงานต่างๆ เช่น การจัดการเวชระเบียน

นอกจากนี้ยังพัฒนาโมเดลผู้ช่วยส่วนตัว ชื่อ Zhixiaobao และบริการที่ปรึกษาการเงิน AI ชื่อ Maxiaocai ด้วย

เทียบโมเดล AI ของ Ant กับคู่แข่ง

Ant เปิดเผยว่า โมเดล Ling-Lite ทำคะแนนได้ดีกว่าโมเดล Llama รุ่นหนึ่งของ Meta ในเกณฑ์มาตรฐานสำคัญ นอกจากนี้ ทั้งโมเดล Ling-Lite และ Ling-Plus ยังมีผลลัพธ์ที่เหนือกว่าโมเดลของ DeepSeek ในเกณฑ์มาตรฐานภาษาจีน

โมเดล Ling-Lite ของ Ant มาพร้อมกับพารามิเตอร์ 16.8 พันล้านพารามิเตอร์ ส่วน Ling-Plus มี 290 พันล้านพารามิเตอร์ ซึ่งถือว่าใหญ่เมื่อเทียบกับโมเดลภาษาทั่วไป

เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง อย่าง ผู้เชี่ยวชาญประมาณการว่า GPT-4.5 ของ ChatGPT ที่พัฒนาโดย OpenAI มีพารามิเตอร์ 1.8 ล้านล้านพารามิเตอร์ ตามข้อมูลจาก MIT Technology Review ขณะที่ DeepSeek-R1 มีพารามิเตอร์ 671 พันล้านพารามิเตอร์

อย่างไรก็ตาม Ant เผชิญความท้าทายบางประการในระหว่างการเทรนโมเดล AI รวมถึง ความเสถียร เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในฮาร์ดแวร์หรือโครงสร้างของโมเดลก็ก่อให้เกิดปัญหา เช่น การกระโดดของอัตราความผิดพลาดของโมเดล

การใช้งานด้านการแพทย์

Ant ระบุว่า บริษัทได้พัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ที่เน้นการดูแลสุขภาพ ซึ่งได้รับการนำไปใช้งานในโรงพยาบาลและผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ จำนวน 7 แห่งในกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ โดยใช้ DeepSeek-R1, Qwen ของ Alibaba และโมเดล LLM ของ Ant เอง

นอกจากนี้ยังเปิดตัวโมเดล AI ตัวแทนทางการแพทย์ 2 รุ่น ได้แก่ Angel ซึ่งให้บริการในสถานพยาบาลกว่า 1,000 แห่ง และโมเดล Yibaoer ซึ่งสนับสนุนการบริการด้านประกันสุขภาพ หลังจากเพิ่งเปิดตัวบริการ AI Healthcare Manager ในแอป Alipay เพื่อสนับสนุนระบบสุขภาพ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว

สรุป

หากชิปจีนเหล่านี้ได้รับความนิยมมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อสถานะของ Nvidia ในฐานะผู้ผลิตชิป AI รายใหญ่และทำกำไรสูงสุดในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ชิปของ Nvidia ยังคงเป็นที่ต้องการสูง รวมถึง ในจีน ซึ่งมีรายงานว่าผู้ซื้อยังสามารถเข้าถึงชิปรุ่นล่าสุดของ Nvidia อย่าง Blackwell ได้ แม้จะมีกฎควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ

ขณะที่ทั้ง Ant Group และ Nvidia ยังไม่ได้ตอบกลับคำร้องขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

ที่มา 

techcrunch

finance.yahoo

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related