svasdssvasds

กระดาษทนรังสีแกมมา ต่อยอดพัฒนาชุดอวกาศได้ ผลงานคนไทย

กระดาษทนรังสีแกมมา ต่อยอดพัฒนาชุดอวกาศได้ ผลงานคนไทย

นักวิจัยไทยกำลังพัฒนากระดาษที่สามารถทนรังสีได้ ซึ่งจะนำไปประยุกต์ใช้งานเป็นอุปกรณ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์ตรวจวัดรังสี และต่อยอดสู่การพัฒนาชุดอวกาศหรือยานอวกาศได้

SHORT CUT

  • นักวิจัยไทยพัฒนากระดาษทนรังสีแกมมาโดยเคลือบวัสดุแผ่นบางไททาเนท
  • ทำให้มีความทนทานสูงขึ้นและใช้เป็นอุปกรณ์วัดรังสีได้อย่างแม่นยำ
  • กระดาษนี้สามารถใช้แล้วทิ้ง ลดขยะจากอุปกรณ์ตรวจวัดรังสีแบบเดิม และองค์ความรู้ยังสามารถต่อยอดสู่การพัฒนาชุดอวกาศและยานอวกาศได้อีกด้วย

นักวิจัยไทยกำลังพัฒนากระดาษที่สามารถทนรังสีได้ ซึ่งจะนำไปประยุกต์ใช้งานเป็นอุปกรณ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์ตรวจวัดรังสี และต่อยอดสู่การพัฒนาชุดอวกาศหรือยานอวกาศได้

รู้หรือไม่ กระดาษธรรมดาทั่วไปเมื่อได้รับรังสีแกมมาจะถูกเปลี่ยนสภาพกลายเป็นกระดาษที่เปื่อยยุ่ย เสียหาย แต่นักวิจัยไทยกำลังพัฒนากระดาษที่สามารถทนรังสีได้ ซึ่งจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานเป็นอุปกรณ์ต่างๆ ได้ เช่น อุปกรณ์ตรวจวัดรังสี และองค์ความรู้เดียวกันนี้ยังสามารถต่อยอดสู่การพัฒนาชุดอวกาศหรือยานอวกาศได้ ! 

กระดาษทนรังสีแกมมา: จากห้องแล็บสู่ห้วงอวกาศ

ในโลกที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง นักวิจัยไทยกลุ่มหนึ่งได้สร้างสรรค์ผลงานอันน่าทึ่ง นั่นคือ "กระดาษทนรังสีแกมมา" ผลงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระดาษธรรมดาที่ทนทานต่อรังสี แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดไปสู่เทคโนโลยีอวกาศอันล้ำสมัย
 

จุดเริ่มต้นจากวัสดุธรรมชาติ

นักวิจัยจากวิทยาลัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมวัสดุ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกับนักวิจัยจากอีกหลายหน่วยงาน ได้แก่ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยมหิดล  ได้ร่วมมือกันพัฒนาวัสดุที่สามารถทนทานต่อรังสีแกมมา ซึ่งเป็นรังสีที่มีอำนาจทะลุทะลวงสูง 

โดยพวกเขาได้นำกระดาษกรองซึ่งเป็นเซลลูโลสจากพืชมาเคลือบด้วย "วัสดุแผ่นบางไททาเนท" ซึ่งเป็นวัสดุคอมโพสิตและวัสดุนาโนสองมิติ ผลลัพธ์ที่ได้คือนวัตกรรมกระดาษที่มีความทนทานต่อรังสีแกมมาได้สูงกว่ากระดาษทั่วไปถึง 50 กิโลเกรย์

กระดาษทนรังสีแกมมา ต่อยอดพัฒนาชุดอวกาศได้ ผลงานคนไทย

ข้อดีของการพัฒนากระดาษให้เป็นวัสดุที่ทนต่อรังสีแกมมาคือ กระดาษเป็นวัสดุที่สามารถใช้แล้วทิ้งสามารถพัฒนาเป็นอุปกรณ์วัดรังสีได้ ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยเทคนิคภาพถ่ายเอกซเรย์สามมิติจากแสงซินโครตรอน (X-ray Tomography Microscopy: XTM) ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

เมื่อใช้เทคนิคภาพถ่ายเอกซเรย์สามมิติจากแสงซินโครตรอน ตรวจสอบการกระจายตัวของวัสดุแผ่นบางไททาเนทในวัสดุคอมโพสิต พบว่าวัสดุแผ่นบางไททาเนทกระจายตัวอยู่ในช่องว่างระหว่างเส้นใยเซลลูโลสของกระดาษ
 

คุณสมบัติพิเศษและประโยชน์ใช้สอย 

กระดาษทนรังสีแกมมานี้มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถทนทานต่อรังสีโดยที่โครงสร้างและสมบัติทางกายภาพไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ทำให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น การพัฒนาเป็นอุปกรณ์ตรวจวัดรังสีที่มีความแม่นยำสูง เนื่องจากกระดาษเป็นวัสดุที่ใช้แล้วทิ้งได้ และยังเป็นตัวรองรับที่สามารถรวมหลายๆ สิ่งให้อยู่ด้วยกันได้

การต่อยอดสู่เทคโนโลยีอวกาศ

ความรู้และเทคโนโลยีที่ได้จากการพัฒนากระดาษทนรังสีแกมมานี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การใช้งานบนโลกเท่านั้น แต่ยังสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาชุดอวกาศและยานอวกาศที่ทนทานต่อรังสีในอวกาศได้อีกด้วย เนื่องจากกระดาษ ชุดอวกาศ และยานอวกาศล้วนเป็นวัสดุประเภท "พอลิเมอร์" ซึ่งมีโครงสร้างทางเคมีที่คล้ายคลึงกัน

งานวิจัยนี้ยังได้รับการตีพิมพ์ผลงานในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ Ceramics International ซึ่งอยู่ในฐานข้อมูล WOS และ Scopus และได้รับการจัดระดับโดย Journal Citation Reports ในสาขา Materials Science, Ceramics ใน Quartile 1 (เปอร์เซนไทล์ที่ 91.1 และค่า Impact Factor เท่ากับ 5.2) ด้วย

ที่มา https://www.slri.or.th

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related