SHORT CUT
DeepSeek จุดชนวนสงครามราคา AI การลดราคา API ช่วง off-peak สูงสุดถึง 75% ของ DeepSeek เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงการแข่งขันด้านราคาที่กำลังจะทวีความรุนแรงขึ้นในตลาด AI
ช่วงเวลา "Off-peak" ที่ DeepSeek กำหนดนั้น ตรงกับเวลากลางวันของยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักของเทคโนโลยี AI ทำให้การลดราคานี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการแข่งขันในระดับสากล
ปรัชญาโอเพนซอร์สของ DeepSeek และการที่บริษัทกำลังเร่งพัฒนาโมเดล AI รุ่นใหม่ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำ และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม AI ในอนาคต
DeepSeek สตาร์ทอัพ AI สัญชาติจีน ได้เปิดตัวราคาช่วงนอกเวลาทำการ (off-peak) ที่ลดราคาสำหรับนักพัฒนา ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้อาจสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งทั้งในจีนและต่างประเทศต้องลดราคาตาม
DeepSeek สตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สัญชาติจีน ได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการอีกครั้ง
ด้วยการประกาศลดราคาค่าใช้งาน API ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้นักพัฒนาภายนอกสามารถนำโมเดล AI ของ DeepSeek ไปใช้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการของตนเองได้
โดยการลดราคาครั้งนี้จะมีผลในช่วงเวลาที่เรียกว่า "Off-Peak" หรือช่วงนอกเวลาทำการปกติ ซึ่ง DeepSeek กำหนดไว้ระหว่างเวลา 00:30 น. ถึง 08:30 น. ตามเวลาปักกิ่ง (หรือ 16:30 น. ถึง 00:30 น. ตามเวลา GMT)
สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้จะเป็นช่วง "Off-Peak" ของจีน แต่ช่วงเวลาดังกล่าวกลับตรงกับเวลากลางวันของหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของเทคโนโลยี AI ทั่วโลก
โดย DeepSeek ระบุว่า การใช้งาน API ของโมเดล R1 และ V3 ในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีค่าใช้จ่ายลดลงถึง 75% และ 50% ตามลำดับ
🚨 Off-Peak Discounts Alert!
— DeepSeek (@deepseek_ai) February 26, 2025
Starting today, enjoy off-peak discounts on the DeepSeek API Platform from 16:30–00:30 UTC daily:
🔹 DeepSeek-V3 at 50% off
🔹 DeepSeek-R1 at a massive 75% off
Maximize your resources smarter — save more during these high-value hours! pic.twitter.com/00Qa6iNbcG
การประกาศลดราคาครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาของ DeepSeek หลังจากที่บริษัทเคยสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาด AI มาแล้วหลายครั้ง
เริ่มตั้งแต่การเปิดตัวโมเดล AI ราคาประหยัดที่จุดประเด็นให้เกิดการเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า DeepSeek จะเข้ามาท้าทายผู้นำตลาด AI รายเดิม
นอกจากนี้ DeepSeek ยังมีปรัชญาการดำเนินงานแบบโอเพนซอร์ส (Open-Source) ซึ่งเปิดโอกาสให้นักพัฒนาและผู้สนใจทั่วไปสามารถเข้าถึงและนำเทคโนโลยีของบริษัทไปต่อยอดได้
ซึ่งแนวทางนี้ได้กระตุ้นให้เกิดการแข่งขันด้านราคาในตลาด AI ของจีนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เมื่อ DeepSeek เปิดตัวโมเดล V2
การลดราคาครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณของการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นในตลาด AI ทั้งในประเทศจีนและระดับโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคู่แข่งรายใหญ่อย่าง OpenAI (ผู้พัฒนา ChatGPT) และ Google (ผู้พัฒนา Gemini) ได้เริ่มปรับลดราคาและเพิ่มทางเลือกในการเข้าถึงบริการ AI ของตนเองแล้ว
DeepSeek กำลังสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในวงการ AI ด้วยกลยุทธ์ด้านราคาและแนวทางการพัฒนาแบบเปิด การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและนักพัฒนา
แต่ก็เป็นความท้าทายสำหรับผู้เล่นรายอื่นๆ ในตลาด ในอนาคตอันใกล้ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรม AI ก็เป็นได้
ที่มา : REUTERS