SHORT CUT
BYD เขย่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง เปิดตัวระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ "God's Eye" ในรถยนต์รุ่นเล็ก ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 10,000 ดอลลาร์ หวังเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเทคโนโลยีล้ำสมัยในราคาเข้าถึงได้
BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน สร้างความฮือฮาให้กับวงการยานยนต์อีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศเปิดตัวระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง "God's Eye" ในรถยนต์รุ่นต่างๆ ของ BYD ซึ่งรวมถึงรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า 100,000 หยวน (ประมาณ 9,555 ดอลลาร์สหรัฐ)
BYD ทำให้เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเข้าถึงได้ง่ายขึ้น Wang Chuanfu ซีอีโอของ BYD ประกาศว่าเทคโนโลยีที่ดีควรเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ทำให้บริษัทตัดสินใจอัปเกรดระบบให้กับรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีทั้งหมด รวมถึงรุ่น Seagull, Dolphin และ Seal EV รวมถึงรุ่นอื่น ๆ เช่น Han, Song และ Yuan
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะก่อนหน้านี้ BYD เคยนำเสนอเทคโนโลยีดังกล่าวเฉพาะในรุ่นที่มีราคาสูงกว่า 30,000 ดอลลาร์เท่านั้น การขยายตลาดสู่รถยนต์ไฟฟ้าราคาเข้าถึงได้ ทำให้ BYD สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด
ระบบ "God's Eye" เป็นเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ช่วยให้รถยนต์สามารถนำทางบนท้องถนนได้อย่างอิสระ โดยมีคุณสมบัติหลักๆ เช่น การควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, การรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า, การเปลี่ยนเลนและการจอดรถอัตโนมัติ
Wang Chuanfu ผู้ก่อตั้ง BYD กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะทำให้เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะมีงบประมาณเท่าใดก็ตาม การเปิดตัวระบบ "God's Eye" ในรถยนต์รุ่นเล็ก ถือเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
BYD ได้แบ่งระดับของระบบขับขี่อัจฉริยะ God Eye ออกเป็น 3 ระดับ เพื่อให้เหมาะสมกับการทำงานในรถรุ่นต่าง ๆ ได้แก่ God Eye C (ระดับเริ่มต้น), God Eye B (ระดับกลาง) และ God Eye A (ระดับสูงสุด)
BYD Seagull ซึ่งเป็นรถรุ่นราคาประหยัดที่สุดของบริษัท ก็ยังได้รับอัปเกรดให้ใช้ระบบขับขี่อัจฉริยะด้วย แสดงให้เห็นว่า BYD ไม่ได้จำกัดเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะไว้เฉพาะรถยนต์ราคาแพงเท่านั้น
นักวิเคราะห์มองว่า การเคลื่อนไหวของ BYD ในครั้งนี้ จะส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่รุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Tesla ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของ BYD ในตลาดจีน
นอกจากนี้ การที่ BYD นำเสนอเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติในราคาที่เข้าถึงได้ จะเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และส่งผลดีต่อการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในภาพรวม
BYD กำลังทำให้เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้บริโภคทุกระดับ และกำลังมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะในอนาคต
ที่มา : REUTERS