SHORT CUT
OpenAI และ Microsoft ผนึกกำลังส่งมอบเทคโนโลยี AI ล้ำสมัยแก่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติสหรัฐฯ เพื่อยกระดับความมั่นคงและงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
OpenAI ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำเจ้าของ ChatGPT ร่วมจับมือกับ Microsoft ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับรัฐบาลสหรัฐฯ
ซึ่งสองบริษัทยักษ์ใหญ่จะร่วมนำเทคโนโลยี AI ไปประยุกต์ใช้ในงานวิจัยด้านความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงโครงการทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
OpenAI ได้ประกาศความร่วมมือกับ Microsoft ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปสนับสนุนการดำเนินงานของห้องปฏิบัติการแห่งชาติของสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ และพัฒนาโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
ภายใต้ข้อตกลงนี้ OpenAI จะทำงานร่วมกับ Microsoft ปรับใช้โมเดล o1 หรือโมเดล o-series บน Venado ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ NVIDIA ที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอสอลามอส
นักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอสอลามอส, ลอว์เรนซ์ลิเวอร์มอร์ และซานเดีย จะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ที่ถูกออกแบบมาเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนา วิทยาศาสตร์ในด้านวิทยาศาสตร์วัสดุ พลังงานหมุนเวียน ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ และอื่นๆ
การร่วมมือครั้งนี้ระหว่าง OpenAI, Microsoft และรัฐบาลสหรัฐฯ จะช่วยพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัย เสริมความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ, ค้นหาวิธีการรักษาและป้องกันโรคใหม่ๆ, ยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์และปกป้องโครงข่ายไฟฟ้า
พัฒนาพลังงานสะอาด, ปฏิวัติโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน, ตรวจจับภัยคุกคามทางธรรมชาติและจากมนุษย์และขยายความเข้าใจจักรวาลและพลังงาน
หนึ่งในโครงการที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือการนำ AI ไปใช้ในงานวิจัยด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์
โดย OpenAI ระบุว่าจะสนับสนุนการทำงานของห้องปฏิบัติการแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่มุ่งเน้นการลดความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์ และการรักษาความปลอดภัยของวัสดุและอาวุธนิวเคลียร์
นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดโอกาสให้นักวิจัยที่ได้รับอนุญาตด้านความปลอดภัยสามารถเข้าร่วมปรึกษาหารือในโครงการนี้ได้อีกด้วย
"นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ และสนับสนุนโครงการต่างๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ" OpenAI ระบุในแถลงการณ์
ความร่วมมือระหว่าง OpenAI, Microsoft และรัฐบาลสหรัฐฯ ในครั้งนี้ จึงเป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิด และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือในลักษณะเดียวกันในอนาคต เพื่อนำเทคโนโลยี AI มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศในหลากหลายมิติ
ที่มา : Techcrunch, OpenAI