svasdssvasds

เปรียบเทียบ DeepSeek VS ChatGPT AI ตัวไหนน่าใช้มากกว่ากัน

เปรียบเทียบ DeepSeek  VS ChatGPT  AI ตัวไหนน่าใช้มากกว่ากัน

ชวน เปรียบเทียบ DeepSeek VS ChatGPT ตัวไหนน่าใช้งานมากกว่ากัน ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการไอทีต้องใช้ตัวไหน แล้วเพราะเหตุใดจึงทำให้วงการเอไอในสหรัฐฯ ปั่นป่วน

ตอนนี้ DeepSeek ได้รับความนิยมเนื่องจากมันเป็นผู้ช่วยเอไออันทรงพลังซึ่งทำงานคล้ายกับ ChatGPT คำอธิบายในแอปสโตร์ระบุว่า แอปฯ นี้ออกแบบมาเพื่อ "ตอบคำถามของคุณและปรับปรุงชีวิตของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ"
.
ส่วนความคิดเห็นอื่น ๆ จากผู้ที่ให้คะแนนแอปฯ นี้ระบุว่า "มันเขียนสื่อสารในลักษณะเฉพาะตัวมากขึ้น" ดังนั้น เราลองมาเปรียบเทียบ DeepSeek  VS ChatGPT ดูกันว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง 

ChatGPT (โดย OpenAI) และ DeepSeek AI (จากจีน) เป็น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM - Large Language Models) ที่มีความสามารถคล้ายกัน แต่ก็มีจุดแข็งและข้อแตกต่างสำคัญ ดังนี้:

• ChatGPT (OpenAI)  

ต้นกำเนิด :  ChatGPT (OpenAI)  สหรัฐอเมริกา 
การพัฒนา : OpenAI และได้รับการลงทุนจาก Microsoft
โมเดล : GPT o1 / GPT o1-mini  / GPT-4o 
มูลค่า : 1.57 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ 
ประมวลผลภาษาธรรมชาติ  :  แปลภาษา, ตอบคำถาม, สรุปบทความ, วิเคราะห์ข้อมูล , รองรับหลายภาษา เช่น Python, Java, C++, HTML 
 การพัฒนา : โมเดลแบบปิด / มี API ผ่าน OpenAI (เสียค่าใช้จ่าย)
ความเร็ว-ต้นทุน : ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ซับซ้อน-ต้นทุนสูง / ค้นหาข้อมูลออนไลน์แบบเรียลไทม์
การสนทนา : ตอบโต้คล้ายมนุษย์ มีบริบทที่ซับซ้อน
การเข้าถึงข้อมูลล่าสุด  : ใช้ Bing Search (สำหรับเวอร์ชัน Plus)
รองรับภาษาไทย  : ค่อนข้างดี อ่านและเขียนได้เป็นธรรมชาติ 
บริการอื่นๆ : มีทั้งโหมดเสียงและการสร้างภาพ 
ราคา : มีแบบฟรี และแบบเสียเงิน ($20/เดือน)

•  DeepSeek AI 

ต้นกำเนิด : จีน (DeepSeek AI) 
การพัฒนา : สนับสนุนจาก High-Flyer ของจีน (เป็นกองทุน Hedge Fund)
โมเดล :  โมเดลขนาดเล็ก R1
มูลค่า : ยังไม่มีการเปิดเผย  แต่  นักวิจัยที่อยู่เบื้องหลังแอปฯ นี้ระบุว่า ใช้เงินเพียง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 200 ล้านบาท) 
ประมวลผลภาษาธรรมชาติ : แปลภาษา, สรุปข้อมูล, วิเคราะห์ตรรกะ, ช่วยเขียนโค้ด  รองรับการเขียนโค้ดแบบอัตโนมัติ (ใกล้เคียง GPT-4)
การพัฒนา : มี API ผ่าน Open source(ใช้งานฟรี) 
ความเร็ว-ต้นทุน  : ใช้ทรัพยากรต่ำกว่า แต่มีประสิทธิภาพสูง / ไม่มีฟีเจอร์ค้นหาข้อมูลออนไลน์แบบเรียลไทม์
การสนทนา : มีความสามารถในการโต้ตอบ แต่ยังพัฒนาไม่ถึงระดับ GPT-4
การเข้าถึงข้อมูลล่าสุด : ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับการฝึก แต่ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยตรง
รองรับภาษาไทย  : รองรับ แต่ยังมีข้อจำกัดด้านบริบทบางส่วน
บริการอื่นๆ : ยังไม่รองรับการสร้างภาพ
ราคา : ฟรี สามารถติดตั้งได้เอง 

เปรียบเทียบ DeepSeek  VS ChatGPT เอไอ AI ตัวไหนน่าใช้มากกว่ากัน ?

เปรียบเทียบ DeepSeek  VS ChatGPT เอไอ AI ตัวไหนน่าใช้มากกว่ากัน Credit ภาพ REUTERS

สรุปเทียบข้อดี-ข้อเสีย ChatGPT VS DeepSeek AI 

ChatGPT 

ข้อดี

• ความสามารถสูงในการวิเคราะห์ข้อมูลและใช้เหตุผล  

• รองรับ API เชิงพาณิชย์  

• รองรับภาษาได้ดี รวมถึงภาษาไทย

•มีทั้งโหมดเสียงและการสร้างภาพ

ข้อเสีย

• ใช้ API ต้องเสียเงิน  

• รุ่นฟรีมีข้อจำกัดบางอย่าง  

• ข้อมูลอัปเดตต้องใช้ GPT-4 เวอร์ชันเสียเงิน 

DeepSeek AI 

ข้อดี

• เป็นโอเพนซอร์ส สามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้  

• ราคาถูกกว่า (ใช้ฟรี)  

• ใช้ทรัพยากรต่ำแต่ให้ประสิทธิภาพสูง

ข้อเสีย

• อาจมีการเซ็นเซอร์ข้อมูลหรือประเด็นที่ละเอียดอ่อนตามกฎหมายจีน  

• ยังใหม่ในตลาด อาจไม่แม่นยำเท่า GPT-4  

• ไม่มีฟีเจอร์ค้นหาข้อมูลออนไลน์แบบเรียลไทม์ • มีความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related