SHORT CUT
“Meta” บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กออกโรงสนับสนุนความพยายามของ “อีลอน มัสก์” ที่จะขัดขวางการเปลี่ยน OpenAI เจ้าของ ChatGPT จากบริษัทที่ไม่แสวงหาผลกำไรสู่การเป็นบริษัทแสวงหาผลกำไรอย่างเต็มรูปแบบ
หนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า Meta ได้ส่งจดหมายถึง “ร็อบ บอนต้า” (Rob Bonta) อัยการสูงสุดแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ โดยโต้แย้งว่าการปล่อยให้มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อบริษัทต่าง ๆ ในซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัท Meta จะขอให้อัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย ดำเนินการพิจารณาประเด็นโดยตรง แต่บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กระบุด้วยว่า "อีลอน มัสก์ (Elon Musk) และชีวอน ซิลิส (Shivon Zilis) อดีตคณะกรรมการบริหารของ OpenAI นั้นมีคุณสมบัติและอยู่ในตำแหน่งเหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของชาวแคลิฟอร์เนียในเรื่องนี้"
Meta ระบุด้วยว่า หากธุรกิจรูปแบบใหม่ของ OpenAI ถูกต้องตามกฎหมาย นักลงทุนที่ไม่แสวงหาผลกำไรจะได้รับผลประโยชน์จากการลงทุนเพื่อแสวงหากำไรเช่นเดียวกับผู้ที่ลงทุนในบริษัทแสวงหากำไร และขณะเดียวกันก็ได้รับประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีที่ได้จากรัฐบาลด้วย
ปัจจุบัน Meta กลายเป็นหนึ่งในคู่แข่งรายใหญ่ของ OpenAI ในตลาดปัญญาประดิษฐ์
ขณะที่มัสก์ที่เคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI แต่แยกตัวออกจากบริษัทในปี 2018 ก่อนก่อตั้งบริษัท xAI ของตัวเองขึ้น ได้เดินหน้าดำเนินคดีกับบริษัท OpenAI รวมถึง การฟ้องร้องต่อศาลรัฐบาลกลางเพื่อหยุดยั้งไม่ให้บริษัท OpenAI เปลี่ยนโครงสร้างจากธุรกิจไม่แสวงหาผลกำไรไปสู่การเป็นบริษัทแสวงหากำไร
ด้าน OpenAI ตอบโต้ด้วยการเผยแพร่อีเมลเก่าและข้อความของมัสก์สมัยยังอยู่ OpenAI โดยระบุว่ามัสก์พยายามขัดขวาง OpenAI ในขณะที่ปรับปรุงบริษัท xAI ของตัวเอง ซึ่งเป็นคู่แข่งของ OpenAI ให้สมบูรณ์แบบ
รายละเอียดในบล็อกโพสต์ของ OpenAI ที่มีหัวข้อว่า “อีลอน มัสก์ ต้องการ OpenAI เพื่อแสวงหากำไร” นั้น แสดงให้เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันในประเด็นดังกล่าวมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 ในฐานะองค์กรไม่แสวงหากำไร ซึ่งมัสก์ไม่เห็นด้วยและตั้งคำถาม
ขณะที่ในปี 2017 OpenAI ออกมายอมรับว่าความคืบหน้าในการวิจัยของบริษัทจำเป็นต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ และทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าจะเปลี่ยนโครงสร้างสู่การเป็นบริษัทแสวงหากำไรในขั้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม “มัสก์” ต้องการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ รวมถึง ต้องการคุมบริษัทและควบตำแหน่งซีอีโอ แต่ OpenAI ปฏิเสธเงื่อนไขนี้ จนทำให้มัสก์ตัดสินใจออกจาก OpenAI และตั้งบริษัท xAI ขึ้นมาเป็นคู่แข่งในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ การยื่นฟ้องล่าสุดของ Musk ถือเป็นความพยายามดำเนินคดีกับ OpenAI ครั้งที่ 4 ในรอบไม่ถึง 1 ปี
ที่มา
PHOTO: REUTERS