SHORT CUT
หุ้นของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% ในการซื้อขายเมื่อวันอังคาร หลังจากการเปิดตัวชิป Willow ชิปประมวลผลควอนตัมรุ่นล่าสุด เพิ่มมูลค่าตลาดราว 136,000 ล้านดอลลาร์ (4.59 ล้านล้านบาท)
ราคาหุ้นของบริษัทอัลฟาเบต Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% ในการซื้อขายเมื่อวันอังคาร เพิ่มมูลค่าตลาดราว 136,000 ล้านดอลลาร์ (4.59 ล้านล้านบาท) เพียง 1 วันหลังการเปิดตัวชิป Willow ชิปควอนตัมรุ่นล่าสุดที่บริษัทยกย่องว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ
เนื่องจากชิปรุ่นใหม่สามารถแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ได้ในเวลา 5 นาที เทียบกับคอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมที่จะต้องใช้เวลามากกว่าประวัติศาสตร์ของจักรวาลในการแก้ปัญหาเดียวกัน
Google เปิดตัว “Willow” ชิปควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่บริษัทระบุว่ามีประสิทธิภาพในทำงานได้ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานของควอนตัมคอมพิวเตอร์รุ่นก่อนในปี 2019 อย่างมีนัยสำคัญ โดยชิปควอนตัม Willow ของ Google มาพร้อมกับคิวบิต จำนวน 105 คิวบิต
ซึ่ง Google ระบุว่า เทคโนโลยีของบริษัทได้รับการพัฒนาให้สามารถลดข้อผิดพลาดของชิปควอนตัมที่มีการเพิ่มจำนวนคิวบิตได้แบบเรียลไทม์ จากเดิมซึ่งเคยเป็นปัญหาคอขวดในการพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ให้สามารถใช้งานได้ดีขึ้น
ชิป Willow ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์ที่ 2 ในกลยุทธ์ 6 ขั้นตอนของการพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ ซึ่ง Google วางแผนที่จะสร้างชิปควอนตัมที่มีขนาด 100 ล้านคิวบิตในอนาคต
เมื่อการพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์เติบโตขึ้นถึงขีดสุด หลายฝ่ายคาดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการประมวลผลเพื่อสร้างแบบจำลองขนาดใหญ่และการถอดรหัสต่าง ๆ แต่อาจจะยังเป็นไปไม่ได้ในระยะเวลาไม่กี่ปีหรือไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า
ขณะที่ Google เองก็ไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเพียงรายเดียวที่กำลังมุ่งพัฒนาด้านควอนตัมคอมพิวเตอร์ แต่ยังมีอีกหลายเจ้า รวมถึง Nvidia, Microsoft และ IBM ที่กำลังทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้เช่นกัน นอกเหนือไปจากนักวิจัยของบริษัทสตาร์ทอัพและมหาวิทยาลัยแห่งต่าง ๆ
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นท่ามกลางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่มองว่าราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับชิป AI จะพุ่งสูงขึ้นหลังวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม เนื่องจากเป็นช่วงที่หลายบริษัท รวมถึง Nvidia ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก เตรียมเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ประจำปีงบประมาณ 2024
ปัจจุบัน Nvidia เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในตลาดชิป AI เนื่องจากหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) มีบทบาทสำคัญในการฝึกฝนโมเดล AI ยอดนิยมต่าง ๆ รวมถึง ChatGPT ของ OpenAI และ Llama ของ Meta
ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมของ Nvidia ในด้าน AI GPU นอกจากจะทำให้บริษัทได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดหุ้นแล้ว ยังทำให้บริษัทนำหน้าคู่แข่งในด้านยอดขายอย่างขาดลอย โดยรายได้ของ Nvidia เพิ่มขึ้น 112% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี งบประมาณ 2025 สู่ระดับ 30,800 ล้านดอลลาร์ (1.1 ล้านล้านบาท)
ขณะที่ความต้องการชิป AI แบบกำหนดเอง กำลังขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท Broadcom ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นบริษัทชิป AI ที่สำคัญสุดเป็นอันดับ 2 และเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในด้านชิป ASICs ชิปแบบกำหนดเองประเภทหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมใน AI และคุมตลาดชิปแบบกำหนดเองอยู่ที่ 55% ถึง 60%
สิ่งนี้ช่วยอธิบายถึงความเคลื่อนไหวจากฝ่ายบริหารของ Broadcom ที่เพิ่มคำแนะนำด้านรายได้เฉพาะของ AI โดยคาดการณ์ว่าจะสิ้นสุดปีงบประมาณนี้ด้วยรายได้จากชิป AI ที่ 12,000 ล้านดอลลาร์ (4.05 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากแนวโน้มก่อนหน้านี้ที่ 11,000 ล้านดอลลาร์ ( แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจาก 4,200 ล้านดอลลาร์ (1.42 แสนล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2023
ด้วยโอกาสอันมหาศาลในตลาดชิป AI แบบกำหนดเอง ทำให้นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกราฟการเติบโตที่ยอดเยี่ยมของ Broadcom ขณะเดียวกันข่าวเชิงบวกนี้ยังอาจส่งผลให้หุ้นของ Broadcom ทะยานขึ้นไปอีกเมื่อมีการเปิดเผยรายงานรายได้ประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคมด้วย
ที่มา : CNBC , Yahoo Finance