SHORT CUT
NVIDIA (NVDA) บริษัทผู้ผลิตชิป AI ชั้นนำของโลก กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดและขึ้นแท่นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยล่าสุด บริษัทได้รายงานรายรับไตรมาสที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2568 สูงถึง 3.51 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
NVIDIA ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก ได้เปิดเผยรายงานในไตรมาสที่ 3 โดย Form 10-Q ของ NVIDIA เปิดเผยว่า 36% ของรายได้ หรือประมาณ 1.26 หมื่นล้านเหรียญ มาจากลูกค้าเพียง 3 รายเท่านั้น โดยลูกค้า A, B และ C แต่ละรายคิดเป็น 12% ของรายได้รวมในไตรมาสนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้า B และ C ยังคงเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ซื้อชิป NVIDIA คิดเป็น 11% ของรายได้รวมในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ขณะที่ลูกค้า D คิดเป็น 12% ของรายได้
นั่นหมายความว่าลูกค้า B และ C แต่ละรายใช้จ่ายไปกับเทคโนโลยีของ NVIDIA ประมาณ 1 หมื่นล้านเหรียญในปีนี้ ส่วนลูกค้า D ใช้จ่ายเกือบ 1.1 หมื่นล้านเหรียญ
แม้ NVIDIA จะยังคงรักษาความลับเกี่ยวกับชื่อของลูกค้าทั้งสามราย แต่ผู้เชี่ยวชาญในวงการคาดการณ์ว่า น่าจะประกอบไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Alphabet (Google), Meta, Microsoft และ Tesla ซึ่งล้วนเป็นผู้เล่นหลักในวงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของ NVIDIA นับเป็นสถิติใหม่ โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 94% จากปีที่แล้ว บริษัทคาดการณ์รายได้ในไตรมาสที่ 4 ไว้ที่ 3.75 หมื่นล้านเหรียญ บวกลบ 2% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของบริษัทในตลาดชิป AI
อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่เพียงไม่กี่ราย อาจเป็นความเสี่ยงสำหรับ NVIDIA ในอนาคต หากลูกค้าเหล่านี้เปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีจากคู่แข่ง หรือพัฒนาชิป AI ของตนเอง ดังนั้น NVIDIA จำเป็นต้องขยายฐานลูกค้า และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดชิป AI
นอกจากนี้ การแข่งขันในตลาดชิป AI กำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น เช่น AMD, Intel ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งการตลาดของ NVIDIA ในอนาคต
แม้จะมีความท้าทาย แต่ NVIDIA ยังคงมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากแนวโน้มการใช้งาน AI ที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวของตลาด เช่น Edge Computing, Robotics, และ Healthcare
ในอนาคต NVIDIA อาจไม่ใช่แค่ผู้ผลิตชิป AI แต่เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม AI แบบครบวงจร รวมถึงซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคของปัญญาประดิษฐ์
ที่มา : QZ