SHORT CUT
10 ขั้นตอน รายละเอียดงานที่ AI หรือ ช่วยตั้งแต่คิดงานจุดประกายไอเดียไปจนถึงขั้นตอนจบงาน ! ดังนั้น ใครอยากเป็น Influencer จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
AI ดีจริงไหม ? , AI จะเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจำวันของเราได้ดีแค่ไหน ? นี่คือหัวข้อประเด็นที่เกิดขึ้นในยุคที่ใครๆก็พูดถึง AI ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ด้วยความสามารถ ด้วยศักยภาพของ AI มันสามารถ ทำงานตั้งแต่ช่วยคิดเนื้อหาคอนเทนต์ คิดไอเดีย คิดประเด็น จนกระทั่งไปถึงขั้นทำ วิดีโอ และสุดท้าย จบงานในฐานะ Influencer ได้เลย
หัวใจสำคัญของประเด็น การใช้ AI ช่วยทำงาน ตั้งแต่คิดไอเดียจนถึงเขียน Caption สร้างวิดีโอ จนกระทั่งถึงขั้น ปิดจ๊อบจบงาน นั้น มันคือ การ "ป้อนคำสั่ง" หรือการ เขียน Prompt ซึ่งนั่นก็คือคำสั่งจาก USER ที่เราต้องเขียนเพื่อสั่งให้ AI ตัวต่างๆ ทำงานหรือตอบคำถาม สมมุติว่า ถ้าหาก User อย่างเรา เลือกใช้คำสั่งที่ไม่ครบถ้วน ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ หรืออาจจะไปคนละทิศทาง พูดง่ายๆ คือ “คุณภาพของคำตอบ ขึ้นอยู่กับการเขียน Prompt ของเรา ว่ามีประสิทธิภาพมากแค่ไหน” นั่นเอง
สิ่งที่ต้องเน้นสำหรับ การใช้ AI ก็คือ กำหนดเป้าหมายหรือสิ่งที่เราต้องการจะทำ , กำหนดรายละเอียดหรือขั้นตอนต่างๆ ยิ่งละเอียดยิ่งดี ในทุกๆขั้นตอน
SPRiNG tech จะพาไปรู้จักกับเครื่องมือ AI ชนิดที่จะช่วยคอนเทนต์ครีเอเตอร์เพิ่มประสิทธิภาพ และ productivity ในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น (ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้นอกจากจะเหมาะกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์แล้ว บรรดานักการตลาด และนักธุรกิจ ก็ยังสามารถนำเครื่องมือเหล่านี้ไปใช้ยกระดับการทำงานและทำให้ธุรกิจของคุณก้าวนำคนอื่นไปอีกขั้นด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเต็มประสิทธิภาพ)
ในยุคที่ AI กลายเป็นเทรนด์ของความทันสมัย , ความฉลาดของ AI มาจากการเรียนรู้ข้อมูลมหาศาล แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์รูปแบบการใช้ภาษาในแบบต่างๆ โครงสร้างภาษา รวมถึงเทคนิคการเขียน จนสามารถสร้าง Content ออกมาได้ โดยผู้ใช้ต้องเขียน Prompt หรือข้อความที่ใช้บอก AI ว่าเราต้องการอะไร เป็นเหมือนการบรีฟข้อมูลหรือคำสั่งให้ AI เข้าใจความต้องการของเรา และสร้างผลงาน Content ในหลากหลายรูปแบบได้
ส่วนในขั้นตอนการทำรีเสิร์ช หรือ หาข้อมูลนั้น AI ก็สามารถเป็นคลังข้อมูลให้กับคนสร้างงานได้ , โดยเราสามารถค้นข้อมูลในยุค AI ได้กับหลายๆตัว อาทิ ChatGPT , Claude หรือ NotebookLM ซึ่งทุกตัวสามารถ ช่วยในการเขียนบทความ แก้ไขเนื้อหา สรุปข่าว หรือหาข้อมูลเบื้องต้นสำหรับข่าว
นอกจากนี้ ยังมี Google News API ช่วยในการดึงข้อมูลข่าวสารล่าสุด และ ข้อมูลจากแหล่งข่าวหลายๆ ทีเพื่อใช้ในการวิจัย
ลักษณะของการสร้างข้อความมที่เหมือนกับคนเขียนขึ้นมา ด้วยการสร้างและกำหนดข้อความคำสั่งหรือที่เราเรียกกันว่า Prompt โดยผู้ใช้งาน AI นั้ น สามารถสร้างออกแบบเรื่องราว บทความ บทพูด คำแนะนำ คำโฆษณาและอื่นๆ
โดย ตัวที่อยากแนะนำคือ Jasper , Copy.AI และ Gamma
โดย Jasper เป็นเครื่องมือเขียนเนื้อหาโดยใช้ AI ช่วยสร้างบทความได้อย่างรวดเร็ว
Gamma เป็น AI ที่สร้างงานนำเสนอที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที
นอกจากนี้ ก็ยังมี AI หลายๆตัวที่ช่วยตรวจคำผิด ตรวจไวยากรณ์ได้ อาทิ grammarly , หรือ ProWritingAid ที่เป็นเครื่องมือตรวจสอบและแก้ไขการเขียนที่ช่วยนักข่าว นักเขียน และนักศึกษาในการปรับปรุงคุณภาพของงานเขียน
การใช้ AI ในการเขียน Caption จะมีรูปแบบการใช้ภาษาที่หลากหลายมาก แต่ AI สามารถทำได้ เพียงคุณเขียน Prompt ที่ต้องการไปว่าอยากให้เขียนออกมาในรูปแบบไหน อารมณ์แบบไหน หรือต้องการให้คนอ่านรู้สึกอย่างไร ก็สามารถป้อนข้อมูลไปได้
ในประเด็นนี้ แล้ว แต่ผู้ใช้งานเลยว่า ชอบ สำนวนการเขียน หรือสไตล์ AI แบบไหน อาทิ ใช้ ChatGPT , Copilot หรือ Claude เป็นต้น
หรือ ให้ AI ช่วยเขียน แคปชั่นขายของ ก็ยังได้ โดยใช้ Prompt Lab โดยใช้เว็บไซต์ prompt.sutmeme.com
หมดปัญหาคิดงานไม่ออก AI จะหาไอเดียต่างๆมาเสนอคุณ โดยคุณสามารถบอกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อถึงใน Prompt ได้
AI สามารถเขียน Script ได้ทั้งวิดีโอ โฆษณา และบทสัมภาษณ์ด้วยการสื่อสารข้อความให้ชัดเจน โดย AI ที่อยากแนะนำให้ลองใช้ นั่นคือ Gamma , NotebookLM ยิ่ง NotebookLM นั้น เป็น AI ที่ช่วยสังเคราะห์ข้อมูลได้แบบในระบบปิด กล่าวคือ AI ตัวนี้ เราป้อนข้อมูลไปแค่ไหน มันก็จะคิดงานในกรอบของสิ่งที่เราป้อนเข้าไปนั่นเอง
การสร้างเสียงหรือเลียนแบบเสียงให้ออกมาเหมือนกับมนุษย์พูด หรือ เรียกได้ว่า Text to Speech สามารถนำมาปรับใช้กับการเล่าเรื่องราวหรือเป็นผู้ช่วยแบบ Voice Assistant อัดสคริปต์ต่างๆ ซึ่งนำผลลัพธ์เหล่านี้ ไปช่วยสนับสนุนการทำวิดีโอ หรือ คอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ ได้
อาทิ Transcribe Audio , vidnoz , transkriptor หรือ แม้กระทั่ง Canva ก็มีฟังก์ชั่น แปลงเสียงเป็นข้อความ , ส่วน vidnoz สามารถแปลงข้อความเป็น เสียงหรือ วิดีโอได้
งานนี้เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความ Creative ค่อนข้างสูง แต่ AI สามารถให้ไอเดียเราได้ว่างาน Artwork หรืองานที่ สร้างรูป นั้น ควรจัดวางอย่างไร ใช้ภาพแบบไหน มีข้อความว่าอะไร
และยิ่งไปกว่านั้น AI ใช้สร้างภาพ สร้างกราฟฟิกได้ โดยการสร้างรูปภาพนั้น จากคำอธิบายข้อความ ทำให้เกิดการสร้างภาพที่สมจริง ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งภาพ Sketch , ภาพ Art ภาพวาด ภาพ 3 มิติ หรือ ภาพแบบสมจริงที่นำไปใช้ได้กับการสร้างงานศิลปะ ช่วยในการออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่การฟื้นฟูภาพเก่า
ใน สายงานกราฟิก การออกแบบ เองก็มี AI หลายตัวเลยที่เข้ามามีบทบาทและช่วยให้การทำงานกราฟิกของเราไวขึ้น สะดวกขึ้น ช่วยทุ่นแรงและเวลาได้สบาย ๆ โดยเว็บ หรือ AI ที่วสามารถช่วนทุ่นแรงเราๆได้เลย อย่างเห็นได้ชัดก็มี อาทิ Canva , Leonardo.Ai หรือ design.com
การสร้างงานคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอ ด้วย AI นั้น สามารถทำให้เราทำได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น สร้างวิดีโอเสมือนจริง ด้วยการใส่คำสั่ง แล้วให้ AI ทำหน้าที่ในการสร้างวิดีโอเคลื่อนไหวที่ดูเป็นธรรมชาติได้เลย โดยตัว AI ที่อยากลองแนะนำคือ Fliki , Runway ML,Image Animate
โดย Fliki มีจุดเด่นคือ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนข้อความเป็นวิดีโอพร้อมเสียงพากย์ในหลายภาษา โดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญในการตัดต่อหรือบันทึกเสียงเลย
Runway ML : เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยในการตัดต่อวิดีโอ สร้างภาพจากข้อความ สร้างโมเดล 3D รวมถึงการปรับปรุงภาพและวิดีโอ ช่วยนักข่าวและนักสร้างคอนเทนต์ใช้ AI
หากใครที่ทำงานในการสร้างวิดีโอนั้น ย่อมอยากจะประหยัดเวลา ในการเขียนหรือสร้าง Subtitle หรือ เพิ่มคำบรรยาย เป็นอย่างมาก , แต่ทุกวันนี้ มี AI คอยช่วยทุ่นแรง อาทิ ใน capcut หรือใน captions.ai เป็นต้น
แน่นอนว่า AI สร้างวิดีโอ สร้างกราฟฟิกได้แล้ว , ก็ยังสามารถสร้างสรรค์ "บทเพลง" ขึ้นมาได้ โดยผู้ใช้สามารถ Generative AI ขึ้นเป็นงานขึ้นมา นักดนตรี โปรดิวเซอร์ หรือนักร้อง สามารถใช้เป็นไอเดีย สารตั้งต้นความคิดในการแต่งเพลงได้
โดย AI ที่อยากแนะนำคือ Suno , MusicLM , Amper Music , Beatoven.ai และ Moises
คนทำงานที่ยังไม่เคยลองใช้งาน AI อาจจะต้องลองเปิดใจ และอย่ามองว่า AI จะมาแย่งงานมนุษย์ ในขณะที่คนใช้ AI เป็นอยู่แล้วก็อย่าคิดว่าจะให้ AI ทำงานแทนทุกอย่างไปเลย เราจะได้สบาย คนทำงานในยุคใหม่ควรทำงานด้วย Mindset ที่เรียกว่า AI Conductor คอยควบคุมและสั่งการให้ AI ช่วยทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อมนุษย์ เปรียบเป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งในทีมที่จะช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงาน Routine กิจวัตรที่ทำซ้ำๆ หรืองานไหนที่ AI ทำได้ดีกว่าเราและประหยัดเวลาของเราได้ ก็ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ AI
ต่อไป AI อาจกลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนที่เด็กนักเรียนสามารถถามหาความรู้ได้ทุกเรื่อง และ คนที่อยากเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ก็สามารถทดลองใช้งาน AI ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง