SHORT CUT
น้ำท่วมเชียงราย น้ำท่วมแม่สาย ในเวลานี้ เป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงผู้ประสบอุทกภัยสุดๆ และน้ำไม่มีท่าทีว่าจะลด เหมือนมีแต่จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ วันนี้ Spring จึงจะชวนมาดู ระบบเตือนภัยล่วงหน้า Early Warning ที่เตือนได้ทั่วประเทศ และใช้รับมือได้ หลากหลายสถานการณ์
จากกรณีที่จังหวัดเชียงราย เกิดฝนตกหนักสะสมต่อเนื่อง ทำให้เกิดอุกภัยและดินถล่ม ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. 67 เป็นเหตุให้เกิดอุทกภัยและดินถล่ม ส่งผลกระทบตั้งแต่วันที่ 9 – 11 ก.ย. 2567
ทั้งนี้จากข้อมูลระหว่างวันที่ 9 -11 ก.ย. 2567 รวมทั้งสิ้น 5 อำเภอ 20 ตำบล 46 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (10 ชุมชน) ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ 2 แห่ง ร้านค้า/สถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎรได้รับผลกระทบเบื้องต้น 10,499 ครัวเรือน เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 2 ราย
วันนี้ Spring จึงจะชวนมารู้จัก ระบบเตือนภัยล่วงหน้า Early Warning กรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการจัดทำระบบเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning) เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดทำระบบเตือนภัยให้ครอบคลุมหมู่บ้านเสี่ยงภัยที่อยู่ใน 25 ลุ่มแม่น้ำหลัก
ผ่านการติดตั้งระบบเตือนภัยในสถานีเตือนภัยล่วงหน้าในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งทำงานประสานกันกับห้องปฏิบัติการเฝ้าระวังและเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่ม สำนักทรัพยากรน้ำภาค 1-11 และห้องปฏิบัติการเผ้าระวังเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่ม ที่กรมทรัพยากรน้ำ กรุงเทพฯ โดยนอกจากระบบเตือนภัยที่แสดงผ่านเว็บไซต์ ews.dwr แล้วยังมีโครงการการพัฒนา Mobile Application เพื่อเฝ้าระวังและเตือนภัยของโครงการนี้บนระบบ iOS และ Android โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นผ่าน App Store และ Play Store ได้
เฝ้าระวัง: สัญญาณไฟสีเขียว จะดังขึ้นทุก 20 นาที แต่ละครั้งดังนาน 10 วินาที
เตือนภัย: สัญญาณไฟสีเหลือง จะดังขึ้นทุก 15 นาที แต่ละครั้งดังนาน 10 วินาที
อพยพ: สัญญาณไฟสีแดง จะดังขึ้นทุก 3 นาที แต่ละครั้งดังนาน 10 วินาที
การปฏิบัติตน ให้เคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ปลอดภัย ที่ได้มีการแจ้งให้ทราบ สัญญาณไฟนี้จะปรากฏสีต่างๆ และดังที่สถานีเตือนภัยล่วงหน้าในแต่ละพื้นที่ จากนั้น สถานีเตือนภัยจะส่งข้อมูลและสัญญาณไปยังกรมทรัพยากรน้ำ
เพื่อส่งต่อข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนให้รับทราบ ในขณะที่อีกทางหนึ่งสถานีเตือนภัยก็จะส่งข้อมูลและสัญญาณไปยังผู้รู้/อาสาสมัคร/ผู้นำชุมชน ในพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อประกาศแจ้งเตือนไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อไป
จากข้อมูลของกรมทรัพยากรน้ำพบว่า ปัจจุบันมีสถานีเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning) ใน 63 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีทั้งหมด 2,159 สถานี ครอบคลุม 5,954 หมู่บ้าน (ประเทศไทยมี 75,142 หมู่บ้าน) โดยจังหวัดที่ไม่พบสถานีเตือนภัยล่วงหน้าในระบบของกรมทรัพยากรน้ำก็คือ ชัยนาท นครปฐม นนทบุรี บึงกาฬ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา พิจิตร ร้อยเอ็ด สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สิงห์บุรี อ่างทอง และอำนาจเจริญ
จากข้อมูลของกรมทรัพยากรน้ำ พบว่าจังหวัดเชียงรายมีสถานีเตือนภัยล่วงหน้า 183 สถานี 623 หมู่บ้าน ใน 79 ตำบล และ 3 เทศบาลตำบล โดยเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายในตอนนี้ (10 กันยายน 2567) จากข้อมูลพบว่าอำเภอแม่สาย มีสถานีเตือนภัยล่วงหน้าครอบคลุมเพียง 7 หมู่บ้าน ใน 3 ตำบล ประกอบไปด้วย ตำบลโป่งงาม 2 ที่บ้านผาฮี้ (อาข่า) และบ้านผาฮี้ (ลาหู่) ตำบลเวียงพางคำ 4 ที่บ้านผาหมี บ้านดอยงาม บ้านป่ายางผาแตก และบ้านห้วยน้ำริน ตำบลโรงช้าง 1 ที่บ้านแม่สาย (บ้านถ้ำผาจม)
ในขณะที่อีกหนึ่งอำเภอที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียกวันก็คืออำเภอแม่ฟ้าหลวง พบว่าอำเภอแม่ฟ้าหลวงมีการติดตั้งสถานีเตือนภัยล่วงหน้าครอบคลุม 71 หมู่บ้าน ใน 4 ตำบล คือ แม่สลองใน 26 หมู่บ้าน แม่สลองนอก 11 หมู่บ้าน แม่ฟ้าหลวง 17 หมู่บ้าน และเทอดไทย 17 หมู่บ้าน
ในขณะที่อำเภอเมืองเชียงรายนั้นพบว่ามีสถานีเตือนภัยล่วงหน้าครอบคลุม 84 หมู่บ้าน ใน 13 ตำบลคือ ห้วยชมภู 12 หมู่บ้าน สันทราย 6 หมู่บ้าน แม่ยาว 15 หมู่บ้าน แม่ข้าวต้ม 4 หมู่บ้าน แม่กรณ์ 11 หมู่บ้าน ป่าอ้อดอนชัย 3 หมู่บ้าน บ้านดู่ 2 หมู่บ้าน นางแล 8 หมู่บ้าน ท่าสุด 4 หมู่บ้าน ท่าสาย 5 หมู่บ้าน ดอนฮาง 10 หมู่บ้าน ดอนลาน 3 หมู่บ้าน และทต.นางแล 1 หมู่บ้าน
โดยในคืนวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมาระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่แสดงผลผ่านเว็บไซต์ ews.dwr ของกรมทรัพยากรน้ำนั้น เตือนภัย (สีแดง) 27 หมู่บ้านเข้าขั้นวิกฤตให้อพยพ ซึ่งปรากฏเป็นหมู่บ้าน 13 หมู่บ้านในตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง 2 หมู่บ้านในอำเภอเมืองเชียงราย 4 หมู่บ้านในอำเภอพบพระ จังหวัดตาก 6 หมู่บ้านในอำเภอฝางจังหวัดเชียงใหม่ และ 2 หมู่บ้านในอำเภอแม่อาย เชียงใหม่
สถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย ยังต้องรอติดตามกันต่อไป ตอนนี้เรียกได้ว่าเข้าขั้นวิกฤตแล้ว ยังมีชาวบ้านหลายคนติดอยู่ในบ้าน แถมเป็นพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก บางคนอดอาหารมา 2 วันแล้ว เป็นกำลังใจให้ชาวเชียงรายที่ประสบอุทกภัยทุกคนและพี่ๆเจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ
ที่มา : กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง