SHORT CUT
เมืองเวนิสอิตาลี เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ประสบพบเจอกับปัญหาน้ำท่วม ทำให้เกิดนวัตกรรม MOSE ที่เป็นแบริเออร์ใต้น้ำมาช่วยชาวเมือง
เวนิสอิตาลี เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เผชิญกับปัญหาน้ำท่วมเรื้อรัง ชาวเมืองเวนิสใช้ชีวิตอยู่คู่กับน้ำท่วมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 และทุกปีชาวเมืองต้องเผชิญปรากฏการณ์ ‘อัควา อัลตา’ (Acqua Alta) หรือการยกตัวของน้ำทะเล ซึ่งเกิดขึ้นช่วงเดือนตุลาคม-มีนาคม กับกระแสลมแรงจากพายุที่พัดพาน้ำจากทะเลเอเดรียติกเข้าสู่ ‘เวเนเชียน ลากูน’ ที่เมืองเวนิสตั้งอยู่
ทำให้ชาวเมืองต้องปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตร่วมกับน้ำท่วมโดยเฉพาะ แก้ปัญหาที่พอจะทำได้ก็คือการเตรียมกล่องไม้สำหรับเป็นทางเดินในช่วงน้ำท่วม เป็นเรือกอนโดลาสามารถถอดหัวเรือออก เพื่อให้ลอดผ่านสะพานข้ามคลองเวลาที่ระดับน้ำเพิ่มสูงได้
ปัญหานี้ทำให้ก่อเกิดโปรเจกต์สุดล้ำขึ้นมา ที่มีชื่อว่า MOSE ซึ่งมาจากชื่อของ ‘โมเสส’ ผู้แหวกทะเลแดงช่วยชาวอิสราเอลหนีจากกองทัพอียิปต์ โดยจะสร้างแบริเออร์เปิด-ปิดได้จำนวน 78 บาน ไว้ใต้น้ำตามแนวช่องทางน้ำเข้าทั้ง 3 จุดที่เชื่อมต่อ เวเนเชียน ลากูน กับทะเลเอเดรียติก โดยการควบคุมก็ง่ายๆไม่ยากเลยค่ะ จะใช้การควบคุมจากระยะไกลเพื่อยกแบริเออร์ขึ้นมาในตอนที่ระดับน้ำเพิ่มสูง กันไม่ให้น้ำเข้าสู่ลากูน ก่อนจะลดแบริเออร์ลงเมื่อระดับน้ำต่ำลง
การที่มีโปรเจกต์นี้ผุดขึ้นมา ทำให้เวนิส อิตาลี รอด Acqua Alta ในรอบ 1,200 ปี เลยทีเดียว โปรเจกต์นี้ถือว่าเป็น Mega Project เพราะใช้ทุนกว่า 8 พันล้านยูโร
แต่ทว่ายังคงต้องมีการพัฒนาทางวิศกรรมต่อไป เนื่องจากความล่าช้าในการก่อสร้าง นักวิชาการคาดว่าอาจมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอที่จะรองน้ำการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจากภาวะโลกร้อน แต่ก็ถือว่าเป็นโครงการที่ช่วยชาวเวนิสให้รอดพ้นน้ำท่วมได้อย่างดีกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก
ที่มา : CNET
ข่าวที่เกี่ยวข้อง