หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ Figure 01 เริ่มทำงานประกอบรถยนต์ในโรงงาน BMW

[ล้ำแบบเต็มกราฟ-หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ Figure 01 เริ่มทำงานประกอบรถยนต์ในโรงงาน #BMW]
.
บริษัท #Figure เปิดเผยว่า #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ #Figure01 ได้รับมอบหมายงานแรกในการทำงานที่โรงงานรถยนต์ BMW ค่ายรถยนต์หรูยักษ์ใหญ่สัญชาติเยอรมนี ที่ตั้งอยู่ใน สปาร์ตันเบิร์ก Spartanburg รัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา โดยหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถเรียนรู้การทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว และถูกออกแบบมาเพื่อทำงานได้เหมือนมนุษย์ สามารถทำงานที่มีความแม่นยำสูงและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
การพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์นั้น จะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง และต้องมีสิ่งสำคัญที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพ

แม้ว่าโมเดล AI ที่ใช้ฝึกหุ่นยนต์เหล่านี้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา แต่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่น่าประทับใจ โดยสิ่งสำคัญ คือ ความแตกต่างจากหุ่นยนต์อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม โดยสามารถพูดโต้ตอบได้ ซึ่งหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ Figure 01 มีการใช้โปรแกรมเสียงและโมเดลภาษาจาก OpenAI ด้วย
 

หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ออกแบบมาให้มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ กล่าวคือ มีแขนมีขา มีศีรษะ เพื่อให้สามารถทำงานต่าง ๆ มากกว่าที่มนุษย์ทำได้ ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และอีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ ลดจำนวนการใช้แรงงานมนุษย์ในงานที่ไม่ปลอดภัย  นอกจานี้ยังมีเงื่อนไขอีกหนึ่งข้อที่โดดเด่นก็คือ Figure  01 ยังใช้โมเดล AI ภาษาธรรมชาติ ช่วยให้เพื่อนร่วมงานที่เป็นมนุษย์สามารถโต้ตอบกับหุ่นยนต์และส่งคำสั่งด้วยปากเปล่าได้อ

มือของหุ่นยนต์ Figure 01 ช่วยให้เปิดประตูและใช้เครื่องมือได้ แขนและขาช่วยในการเคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพ ขึ้น-ลงบันได ยกของและงานจิปาถะได้อีกมากมาย รวมถึงทำงานเป็นสายซัพพอร์ตสนับสนุนงานด้านการผลิต โลจิสติกส์ การจัดเก็บสินค้า และการค้าปลีก

ในตลาดเชิงพาณิชย์หุ่นยนต์อเนกประสงค์เข้ามามีบทบาทในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา แต่ศักยภาพของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ Figure 01 จะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยได้มากขึ้น โดยบริษัทผู้ผลิตมุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกับโรงงานรถยนต์หรู เพื่อบูรณาการ AI และหุ่นยนต์ให้เข้ากับการผลิตยานยนต์

สำหรับ บริษัทที่ผลิต หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ Figure 01 นั้น ถือเป็นสตาร์ตอัปที่กำลังเติบโตและน่าสนใจมากๆ อยู่ในฝั่งอเมริกาเหนือ 

ส่วนค่ายรถยนต์อย่าง BMW นั้น มีการใช้เทคโนโลยยีใหม่ๆ มาใช้เสมอ โดยช่วงก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยใช้  หุ่นยนต์สุนัขในการตรวจจับปัญหาในการผลิตของโรงงานของแบรนด์ในสหราชอาณาจักรซึ่งผลิตเครื่องยนต์เทอร์โบ BMW และ Mini TwinPower ได้ 400,000 เครื่องต่อปี มาแล้ว

ที่มา : figure automagazine