SHORT CUT
สหรัฐฯ และ ไอร์แลนด์ กลายเป็น 2 เมืองล่าสุด ที่มี ประตูเชื่อมมิติ ทำให้ผู้คนทั้งสองประเทศ ติดต่อสื่อสารกันได้แบบเรียลไทม์
โลกของเรามีเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว แล้วยิ่งเทคโนโลยีของเราพัฒนาไปไกล ก็ยิ่งมีอะไรพิเศษๆ มากขึ้นเรื่อยๆ โดยก่อนหน้านี้ โลกเราเคยมี ประตูทะลุมิติ ที่เคยสร้างความฮือฮาเมื่อปี 2021 โดยครั้งนั้น เป็นการเชื่อมระหว่างโปแลนด์กับลิทัวเนียมาแล้ว , และล่าสุด ประตูเชื่อมมิติ ก็มี บานใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว โดยครั้งนี้ เป็นการข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก โดยเป็นการเชื่อม ไอร์แลนด์ กับ สหรัฐฯ และสร้างเสียงฮือฮาไม่น้อย
ประตูมิติ ที่กำลังเป็นไวรัลขึ้นมาอีกครั้งนั้น , สามารถทำให้ผู้คนทั้ง 2 เมืองทั้งฝั่ง ดับลิน ในไอร์แลนด์ และ นิวยอร์ก ในสหรัฐฯ สามารถมองเห็นกันและกันได้เหมือนกับข้างๆ กัน โดยที่ประตูทั้งคู่จะฉายภาพขนาดใหญ่พร้อมกล้องที่ถ่ายทอดสดระหว่างเมืองนั่นเอง
นั่นหมายความว่า ผู้คนที่อยู่ห่างกันถึง 3,000 ไมล์ สามารถติดต่อสื่อสารกันได้แบบเรียลไทม์
ทั้งนี้ การออกแบบประตูให้เป็นวงกลมมาจากไอเดีย วงล้อเวลา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโลกวิทยาศาสตร์และไซไฟ Portal นี้ถูกออกแบบโดยศูนย์นวัตกรรม LinkMenu fabrikas ของมหาวิทยาลัย Vilnius Gediminas ซึ่งใช้เวลาถึง 5 ปี ในการทำให้มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างใช้ ทำงานได้จริง
ประตูมิตินี้ อาจดูเหมือนไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่ใหม่อะไร ถ้าหากเราจะเรียกมันว่ากล้องวงจรปิดในดีไซน์เท่ๆ 2 ตัวที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน แต่หากลองวิเคราะห์เบื้องหลังเบื้องลึกไอเดียนี้ มันคือการดึงผู้คนที่ถูกตัดขาดออกจากกันด้วยเส้นแบ่งรัฐ พื้นที่ ให้เข้าหากัน
การตั้งประตูฉายภาพเมืองต่างๆ อาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การที่ มนุษย์เราสามารถมองเห็นชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนในพื้นที่ต่างๆ ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงผ่านประตูได้ อย่างน้อยๆ มันก็สามารถสร้างความรู้สึกใกล้ชิดและ ‘เป็นหนึ่งเดียว’ ได้มากขึ้น
ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ พรมแดนประเทศและรัฐอาจเป็นเส้นที่บางลงเรื่อยๆ ถ้าหากเราสามารถรับรู้ถึงผู้คนอีกฟากโลกได้เหมือนอยู่ใกล้กัน
นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ว่า เทคโนโลยีย่อโลกให้แคบลง ...และทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น
ที่มา : archpaper
ข่าวที่เกี่ยวข้อง