SHORT CUT
iPad Pro 2024 และ iPad Air Gen6 เปิดตัวอย่างอลังการ ทั้ง สีและจอ แต่จะมีอะไรเด่นมากกว่านี้บ้างวันนี้ทาง Spring ได้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว
Apple เผยโฉม iPad Pro ใหม่อันน่าทึ่งพร้อมด้วยจอภาพที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก, ชิป M4 และ Apple Pencil Pro iPad Pro ใหม่คือก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในดีไซน์ใหม่ที่ทั้งเบาและบาง พร้อมด้วยจอภาพ Ultra Retina XDR สุดล้ำ และประสิทธิภาพที่เร็วสุดขีดจากชิป M4 ที่มีความสามารถด้าน AI อันทรงพลัง
iPad Air ราคาเริ่มต้นที่ ฿23,900 ในรอบนี้ ปรับมาใช้ชิป Apple M2 เหมือนใน iPad Pro รุ่นก่อนหน้า มาพร้อมกับ 4 สี มี สีฟ้า สีม่วง สีStarlight และ Space Grey ทำให้ได้ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ดีขึ้น หรือเทียบได้กับปรับมาใช้ดีไซน์ของ iPad Pro รุ่นเดิม คือ 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว นอกจากนี้ ยังปรับให้พื้นที่เก็บข้อมูลเริ่มต้นอยู่ที่ 128 GB มีตัวเลือก 256 GB 512 GB และ 1 TB ได้พื้นที่มาให้ทำงาน มากขึ้นถึง 30% เรียกได้เหมาะมากๆกับการเอามารองรับการใช้ AI ในแอปพลิเคชั่น
iPad Pro รุ่นใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ ฿39,900 มีการปรับปรุงดีไซน์ครั้งใหญ่ให้เครื่องบางลง ในรุ่น 11 นิ้ว บาง 5.3 มม. และ 13 นิ้ว บาง 5.1 มม. ทำให้กลายเป็นแท็บเล็ตขนาด 13 นิ้ว ที่บางที่สุด และน้ำหนักเบาลง หน้าจอของ iPad Pro รุ่นใหม่ ปรับมาใช้ Ultra Retina Display ที่ให้ความสว่างเพิ่มขึ้น ด้วยการนำ Tandem OLED มาใช้งาน ให้ความสว่างหน้าจอที่ 1000 nits และสูงสุดที่ 1600 nits
Magic Keyboard ราคา ฿13,990.00 แบบใหม่หมดที่ทั้งบางและเบาขึ้นได้รับการออกแบบมาสำหรับ iPad Pro เพื่อให้พกพาง่ายยิ่งขึ้น โดย Magic Keyboard มาในดีไซน์แบบยกลอย และยังมาพร้อมกับปุ่มฟังก์ชั่น สำหรับเรียกใช้คุณสมบัติต่างๆ ได้ เช่นความสว่างหน้าจอและการควบคุมระดับเสียง แถมยังมีที่พักมืออะลูมิเนียม และยังติดเข้ากับ iPad ด้วยแม่เหล็กได้โดยมี Smart Connector ที่จะเชื่อมต่อเพื่อจ่ายไฟและรับส่งข้อมูลในทันที โดยไม่ต้องใช้ Bluetooth นอกจากนี้ Magic Keyboard ยังมีให้เลือก 2 สีที่เข้ากับ iPad Pro ใหม่อย่างลงตัว นั่นก็คือ สเปซแบล็ค และ สีขาว
รุ่นใหม่ราคา ฿4,990.00 ที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งการใส่ชิป Gyroscope มาภายใน พร้อมเซ็นเซอร์ต่างๆ ทำให้การใช้งานมีความแม่นยำมากขึ้น สามารถหมุน Pencil Pro เพื่อเปลี่ยนมุมของลายเส้นได้ และที่สำคัญรองรับ Find My ในการค้นหาอุปกรณ์แล้ว
พร้อมกันนี้ Apple ยังได้เปิดเผยถึงการนำโปรแกรมยอดนิยมในกลุ่มครีเอเตอร์ทั้ง Finalcut Pro และ LogicPro 2 มาให้ใช้งานบน iPadOS เพิ่มเติม ผสมกับประสิทธิภาพของ Apple M4 ทำให้ประมวลผลได้เร็ว และรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นนั่นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง