SHORT CUT
Apple กำลังประสบวิกฤตมรสุมครั้งใหญ่ทำให้ยอดขายลดลง การพัฒนาของคู่แข่งทั่วโลกทำให้คนซื้อไอโฟนน้อยลง โดยเฉพาะตลาดจีนที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ Apple ต้องยอมทำ iPhone รุ่นราคาถูกออกมา
Apple อดีตแชมป์ในตลาดสมาร์ทโฟนที่เคยกวาดยอดขายผู้ใช้ทั่วโลก ขณะนี้กำลังเจอมรสุมครั้งใหญ่ ซึ่งขณะนี้ยอดขาย iPhone ได้ลดลง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น, ความยากลำบากในการพัฒนา AI หรือแม้กระทั่ง Apple Car ที่ถูกพับโครงการไปอย่างน่าเสียดาย
ขณะนี้ Apple ต้องหาทางแก้ปัญหายอดขาย iPhone ที่กำลังลดลง ซึ่งทาง Wall Street Journal คาดไว้ว่ายอดขายจะลดลงประมาณ 5% และนี่เป็นการลดลงครั้งที่ 5 ในช่วง 6 ไตรมาสที่ผ่านมา โดย IDC มองว่ายอดขาย iPhone จะลดลงถึง 10% ในไตรมาสแรก ทั้งๆ ที่ตลาดรวมคาดว่าจะเติบโต 8%
ปัญหายอดขายไอโฟนในจีน ที่ตกต่ำลงมาจากหลายปัจจัย เช่น การสนับสนุนแบรนด์จีน (Nationalism) ด้วยหน่วยงานรัฐบาล สนับสนุนทำให้ลูกค้าชาวจีนนิยมสินค้าที่ผลิตในประเทศมากกว่า ซึ่งขณะนี้ยอดขายในจีนได้ลดลง 13% ซึ่งตกต่ำสุดในรอบ 4 ปี และนักวิเคราะห์ยังคาดว่าจะลดลงอีก
อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังมีลูกค้าไอโฟนในจีนยังคงมีอยู่ แต่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆนั้นหันไปซื้อสมาร์ทโฟนแบรนด์คู่แข่งเป็นจำนวนมาก ซึ่งนี่ทำให้หลุด Eco System ของ Apple ที่ต้องอัปเกรดรุ่นใหม่บ่อยๆเหมือนที่เคยเป็นมา
ปัจจุบันคนเริ่มที่จะเปลี่ยนรุ่นไอโฟนน้อยลงจากหลากหลายเหตุผล เช่น เศรษฐกิจไม่ดี, ราคาที่สูงขึ้นทุกๆปี, สถานการณ์โควิดต่างๆ และที่สำคัญ Apple ไม่สามารถทำให้คนรู้สึกได้ว่าต้องซื้อใหม่เพื่ออัปเกรดรุ่น
ในช่วงยุครุ่งเรืองของบริษัทแอปเปิล สินค้ายอดนิยมนั่นคือ iPhone ที่มีการเปลี่ยนโฉมทุก 2-3 ปี แต่ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงของแต่ละรุ่นน้อยมาก และหันมาขายอุปกรณ์เสริมและบริการแทน เห็นได้จากการพัฒนาแอปฯต่างๆเช่น Apple Music, อุปกรณ์เสริมอย่าง AirPods, Apple Watch ซึ่งนี่อาจทำให้บริษัทแอปเปิลทำกำไรได้มากขึ้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้ยอดขายไอโฟนเพิ่มขึ้นนั่นเอง
Apple ทุ่มเงินไปแล้วกว่า 3.7 แสนล้านบาทในการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เช่น Apple Car รถอัจฉริยะไร้คนขับซึ่งทางบริษัทได้พับโปรเจกต์นี้ไปแล้ว, ใช้งบจำนวนมากในการพัฒนาและผลิต Apple Vision Pro ซึ่งยังคงต้องใช้เวลาเพื่อผลิตรุ่นใหม่ๆออกมาทำการตลาดในรูปแบบ Mass Production หรือราคาถูกเข้าถึงง่ายกว่าในปัจจุบัน
ปัจจุบัน Apple พัฒนาสิ่งใหม่ๆ ออกมามากมายแต่ก็ยังคงมีลูกค้าที่อยากใช้ iPhone ในราคาเข้าถึงง่ายกว่าในปัจจุบัน ซึ่งเดิมทีทางแอปเปิลก็ไม่ได้จริงจังกับการผลิตไอโฟนรุ่นถูกมากนัก โดยขณะนี้ iPhone SE ถือเป็นรุ่นใหม่ที่ถูกที่สุดแต่ก็มีราคาเริ่มต้น 17,900 บาท ซึ่งเมื่อเทียบสเปคต่างๆและฟีเจอร์กับคู่แข่งก็ถือว่าไม่ได้ถูกขนาดนั้น
ถึงแม้ Apple พยายามหลีกเลี่ยงการพัฒนาและผลิต iPhone ราคาถูกออกมา แต่เมื่อเกิดวิกฤตนี้บริษัทอาจต้องยอมลดต้นทุน ปรับฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อให้ขายได้ในราคา 250 ดอลลาร์ (9,250 บาท) เพื่อตีตลาดกับคู่แข่งทั่วโลกได้
Apple กำลังพยายามขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศต่างๆนอกจากจีน เช่น อินเดีย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณที่เห็นได้ชัดเจนว่าบริษัทกำลังลดการพึ่งพาจากยอดขายในจีน ซึ่งเราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าแอปเปิลจะแก้เกมนี้ได้อย่างไรบ้าง ซึ่งในปีนี้ก็มีทั้ง iOS18 และ iPhone 16 ที่จ่อเปิดตัว ซึ่งหากไม่ได้ทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้น
ที่มา : Bloomberg