SHORT CUT
อ้อมกอดของมนุษย์ ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายจากความเครียดได้ แต่หากเปลี่ยนคู่กอดเป็นหุ่นยนต์ ห้วงอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้น น้ำตา ฮอร์โมน ของเราจะยังเกิดขึ้นอยู่ไหม เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าไม่มีหัวใจ มีแต่เศษเหล็ก
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่มนุษย์เริ่มใช้หุ่นยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกในหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารในร้านสุกี้เจ้าดัง หุ่นยนต์พี่เลี้ยงเด็ก หรือหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ
แต่ถ้าจะให้หุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเราในมิติที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเช่น “การกอด” ล่ะ เมื่อเรารู้อยู่แก่ใจว่าอ้อมกอดนี้ ภายในไม่มีหัวใจให้รู้สึก มีแต่โลหะ แบตเตอรี่และสายไฟโยงใย เคมีความอบอุ่น ห้วงอารมณ์อับซับซ้อนที่มนุษย์มอบให้กันจะเกิดขึ้นกับอ้อมกอดหุ่นยนต์หรือไม่
สปริงพาไปสำรวจอ้อมกอดของมนุษย์ การกอดมีประโยชน์ยังไง การกอดมีกี่รูปแบบ จากนั้นมาดูว่าหุ่นยนต์จะสามารถเลียนแบบมนุษย์ได้หรือเปล่า แล้วตอนนี้หุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรมมาเพื่อให้กอดมนุษย์โดยเฉพาะทำได้แค่ไหนแล้ว
เหนื่อยจัง...ขอกอดหน่อย
โอ๋ ๆ ... ไม่ต้องร้อง มานี่มา มากอดหน่อย
เคยไหมเหนื่อยมาทั้งวัน กลับบ้านมาได้กอดอุ่น ๆ จากใครสักคนอาการเหน็ดเหนื่อยก็หายราวกับไม่เคยเกิดขึ้น หรือยามที่ร้องไห้น้ำตาไหลเป็นแม่น้ำได้อ้อมกอดปลอบประโลมก็รู้สึกดีขึ้นได้ หรือบางครั้งแทบไม่ต้องเอ่ยอะไรเลยด้วยซ้ำ แค่อ้อมกอดของใครอีกคนก็ทำให้เราใจเย็นลงอย่างไม่น่าเชื่อ
เป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เลยว่า ขณะ “กอดกันเกลียว” สามารถช่วยให้เราทุเลาจากอาการเครียดได้ เป็นผลจากการหลั่งของฮอร์โมนเอ็นโดฟิน พร้อมกันกับฮอร์โมนออกซิโทซิน ซึ่งจะพลั่งพลูขณะร่างกายเกิดความสนิทชิดใกล้กับใครอีกคน
หรือการศึกษาในยุคหลัง ๆ ก็ระบุว่า สาเหตุที่เราชอบนอนห่มผ้า กอดผ้าห่ม หรือเปิดแอร์ให้เย็นแล้วห่มผ้านวมหนา ๆ มันเหมือนกับ “กอดจำลอง” ซึ่งทำให้นอนหลับสบายถึงเช้ายันแสงอาทิตย์กระแทกตา ฉะนั้น รออะไรล่ะ หลังจากนี้ก็ขอผ้าห่มทุกคืนเลยแล้วกัน
หัวข้อนี้น่าสนใจ หากไม่ได้สังเกตก็แทบจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า “กอดกัน” มันมีหมวดหมู่ย่อยลงไปอีก แถมวิธีกอดแต่ละแบบก็มีความหมาย และเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่แตกต่างกันด้วย สปริงรวมมาให้ด้านล่างนี้
เป็นการกอดที่เห็นได้บ่อย ๆ เพื่อนกอดกัน แม่กอดลูก กอดทักทาย กอดบอกลา โดยจะกอดแน่น ๆ แค่ 3 วินาที เป็นอันเสร็จสิ้น
เป็นอ้อมกอดที่โรแมนติก มักเกิดขึ้นระหว่างคู่รัก สื่อถึงความไว้ใจ โดยจะเอามือโอบไว้รอบเอว แบบซีนโรแมนติกในภาพยนตร์รักสักเรื่อง
เป็นการกอดเพื่อปลอบให้อีกฝ่ายใจเย็นลง ลำตัวแทบจะไม่โดนกันเลยด้วยซ้ำ อีกนัยหนึ่งอาจมองได้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ไว้ใจคุณเท่าไร หรือถ้าเป็นคนคุย ๆ แล้วกอดเราในลักษณะนี้ ให้เตรียมใจไว้ว่าเราอาจจะนก
เป็นการกอดที่พบได้บ่อยในซีรีส์เกาหลี ตอนที่พระนางตกหลุมรักกัน แล้วนอนกอดกันชนิดที่ว่าผ้าห่มก็ไม่จำเป็น แขนของทั้งคู่กอดรัดกัน “ความรู้สึกของทั้งสองคน” จะตลบอบอวลไปด้วยความโรแมนติก
เป็นการกอดที่มีหน้าต่างของหัวใจ หรือ “สายตา” ผสมเข้ามาด้วย คือไม่ใช่แค่สัมผัสทางกาย แต่มีประกายในดวงตาที่สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกออกมาอีกหนึ่งช่องทาง
เป็นการกอดที่อาจเรียกสายตาสาธารณะได้ เพราะมือเราและอีกฝ่ายจะไขว้ไปล้วงที่กระเป๋าหลังกางเกงของอีกฝ่าย (จุดประสงค์คือให้โดนก้น) ถือเป็นการกอดแบบเบา ๆ น่ารัก ๆ เอาไว้หยอกกันของคู่รัก ตัวอย่างเช่น ซีนนี้ในเรื่อง “Anyone But You”
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงตัวอย่างการกอดที่สปริงเลือกหยิบมาเล่า จริง ๆ ยังมีอีกหลากหลายแบบมาก คุณคิดว่าหุ่นยนต์จะสามารถครีเอตการกอดแบบที่ว่าไปด้านบนได้รึเปล่า แต่ถ้าใครไม่อยากพึ่งพาหุ่นยนต์ก็ให้ “Self Hug” หรือกอดตัวเองแทนก็ได้... คนโสดเราเข้าใจกันดี
เมื่อได้เห็นตัวอย่างลักษณะการกอดของมนุษย์ไปแล้ว มาดูกันว่าในโลกของหุ่นยนต์จะสามารถลอกเลียนแบบอิริยาบถของมนุษย์ได้หรือเปล่า
สปริงยกเคสของ “Moffuly-II” หุ่นยนต์ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลอ่อน มีขนปุกปุยคลุมร่างกาย ความสูง 2 เมตร รูปร่างจ้ำม่ำ เป็นโรบอทที่ถูกออกแบบมาให้ดูเฟรนลี่ เข้าถึงง่าย ชนิดที่ว่าเห็นแล้วอยากจะพุ่งเข้าไปกอดทันที
Moffuly-II ถูกโปรแกรมให้สามารถขยับแขนแสดงท่าทางต่าง ๆ ได้ อาทิ กอดแล้วเอามือตบหลังเพื่อแสดงความเห็นอกเห็นใจ ลูบศีรษะ ก็ฟังดูดีไม่ใช่น้อย แต่ฝั่งมนุษย์ที่ถูกกอดล่ะ รู้สึกยังไง
อาสาสมัครที่เข้าร่วมทดลองกอดกับ Moffuly-II ระบุว่า หุ่นยนต์หมีตัวนี้ดูเป็นมิตรมาก และส่วนใหญ่บอกว่าชอบให้หุ่นยนต์ลูบศีรษะ เพราะยามเผลอ ๆ ก็ชวนให้อบอุ่นอยู่เหมือนกัน
หากเราตั้งโจทย์ไว้แบบง่าย ๆ ว่า แค่อยากมีคนกอด ไม่ได้คาดหวังให้พวกมันต้องมาทำเรื่องละเอียดอ่อนอะไรขนาดนั้น ก็โอเค ไม่น่ามีปัญหา สุดท้ายก็คงเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ หรือหุ่นมาสไรเดอร์ที่เราชอบพกไว้เล่นไว้กอดตอนเราวัยเยาว์
แต่หากเราขยับไปมองในแว่นของสังคม ประเทศซึ่งประชากรนิยมอาศัยอยู่เพียงลำพัง เช่น ประเทศแถบนอร์ดิก พวกเขาจะต้องการอ้อมกอดจากหุ่นยนต์ไหม?
ฟินแลนด์ ประเทศซึ่งประชากรมีความสุขมากที่สุดในโลก แต่ก็เจอปัญหา “ประเทศดีเกินไป” จนทำให้คนไม่มีความท้าทายในชีวิต กระทั่งนำไปสู่การปลิดชีพตัวเอง
หากรัฐบาลฟินแลนด์เล็งเห็นประโยชน์ของหุ่นยนต์กอด แล้วออกเป็นนโยบายลงมา ให้ผู้คนได้มีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น (แม้จะเป็นหุ่นยนต์) วิธีนี้พอจะสามารถเป็นอีกทางเลือกหนึ่งไม่ให้ประชาชนเกิดอาการ depress แล้วนำไปสู่การอัตวิบากกรรมหรือเปล่า
*ปัจจัยเรื่องสภาพอากาศมีผลอย่างมากต่อสุขภาพจิตของคนฟินแลนด์ เป็นประเทศที่อาศัยอยู่ในสภาพอากาศหนาวเหน็บ แถมไม่พระอาทิตย์ไม่ขึ้นเลยเกือบสองเดือน
สุดท้ายไม่มีใครรู้ได้ว่าเส้นแบ่งระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์จะทลายลงเมื่อไหร่ (หรือจริง ๆ ทลายลงไปตั้งนานแล้ว) “การกอด” ที่ไม่เพียงเป็นแค่สัมผัสทางกาย แต่เป็นการแลกเปลี่ยนอารมณ์ ความรู้สึก จิตใจ หากวันหนึ่งหุ่นยนต์สามารถมีฮอร์โมน หรือมี “Mind” เป็นของตัวเองได้ การนอนกอดกับหุ่นยนต์ก็คงกลายเป็นเรื่องปกติ
คำถามส่งท้ายของคอลัมน์ Spring Tech คือ
คุณคิดว่าเงื่อนไขใดที่ถ้าหุ่นยนต์สามารถทำได้ นั่นหมายความว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์กับหุ่นยนต์ได้ผสมรวมกันเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว?
ที่มา: Psychologytoday, wikihow, archstonerecovery, springer, orientsoftware, worldatlas
ข่าวที่เกี่ยวข้อง