"หลักสูตรปริญญาด้าน AI" ในอเมริกากำลังเฟื่องฟู ควรคิดถึงปัจจัยอะไรบ้าง?

โดยทั่วไปหลักสูตรปริญญาด้าน AI เหล่านี้จะลึกกว่าความรู้พื้นฐานของวิทยาการคอมพิวเตอร์ โดยเน้นไปที่หัวข้อสำคัญต่างๆ เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง อัลกอริธึมคอมพิวเตอร์ การวิเคราะห์ข้อมูล และวิทยาการหุ่นยนต์ขั้นสูง เมื่อเร็วๆ นี้ มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรีด้าน AI ในขณะที่วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยหลายแห่งเปิดสอนชั้นเรียนเกี่ยวกับ AI ภายในภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเป็นวิชาเอกเฉพาะก็ตาม

การเพิ่มขึ้นของหลักสูตรปริญญาเฉพาะด้าน AI เกิดขึ้นในขณะที่บริษัทต่างๆ ขาดแคลนผู้มีความสามารถในสาขานี้ หลังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ตามข้อมูลจากเว็บไซต์จัดหางาน Indeed.com ครึ่งหนึ่งของทักษะด้านเทคโนโลยีที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดนั้นจะเป็นทักษะเฉพาะด้าน AI

ถึงกระนั้นก็ยังมีความไม่แน่ใจว่าการเรียนหลักสูตร 4ปี เฉพาะของ AI จะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากความรวดเร็วของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป แต่หลายคนมองว่าตราบใดที่หลักสูตรนั้นยังเกี่ยวข้องกับวิทยาการคอมพิวเตอร์และพื้นฐานอื่นๆ การมุ่งเน้นไปที่ AI ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อการสมัครงานในอนาคต

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักเรียนและผู้ปกครอง รวมถึงใครก็ตามที่คิดจะกลับไปเรียนเพื่อประกอบอาชีพใหม่ จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับปริญญา AI สี่ปี ให้ดีก่อน

ก่อนเรียนหลักสูตรปริญญาด้าน AI  ควรคิดถึงปัจจัยอะไรบ้าง?

1. ปัจจัยพื้นฐาน STEM ยังคงมีความสำคัญ

นักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อในสาขา AI ควรมองหาโปรแกรมที่สอนข้อมูลพื้นฐาน เช่น แนวคิดวิทยาการคอมพิวเตอร์ สถิติ คณิตศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำหรับอาชีพในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ AI เพราะแม้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลง แต่พื้นฐานหลักเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลง และสามารถทำให้ผู้เรียนให้ประสบความสำเร็จได้

2. หลักสูตร AI เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2011

มีหลักสูตรต่างๆ มากมายที่มุ่งเน้นไปที่ AI ในระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษา และมีการเปิดสอนหลักสูตรและปริญญาบัตรเพิ่มขึ้นมากว่าทศวรรษแล้ว

จากข้อมูลของศูนย์ความปลอดภัยและเทคโนโลยีเกิดใหม่แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ วุฒิการศึกษาด้าน AI ได้สวนทางกับแนวโน้มทั่วไปด้านการศึกษามาตั้งแต่ปี 2554 โดยมีการเติบโตในระดับเชิงบวก เทียบกับการเติบโตเชิงลบในทุกสาขาวิชา การทบทวนข้อมูลของรัฐบาลและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ในตลาดการศึกษาระดับอุดมศึกษา

หลักสูตรด้าน AI เพิ่มขึ้นมากถึง 120% ตั้งแต่ปี 2011 ทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท

3. วุฒิการศึกษาในตลาดเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ผู้เรียนบางคนอาจสงสัยว่าพวกเขายังต้องการวุฒิการศึกษาด้วยหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากความรวดเร็วของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป และความจริงที่ว่ามีนายจ้างจำนวนมากขึ้นที่แสดงความเต็มใจที่จะจ้างพนักงานที่ไม่มีปริญญา หากพวกเขามีทักษะที่เหมาะสมและจำเป็นต่องาน

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ชี้ให้เห็นว่า การจ้างผู้ที่ไม่มีวุฒิการศึกษายังไม่มากพอ และการวิจัยจากไซต์อาชีพ Ladders แสดงให้เห็นว่าวุฒิการศึกษายังจำเป็นสำหรับงานที่มีรายได้สูงสุด ซึ่งรวมถึงวิศวกรซอฟต์แวร์ด้วย

การศึกษาระดับปริญญา 4 ปี ยังคงเป็นก้าวสำคัญสำหรับการเข้าสู่ตลาดงานครั้งแรก อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มออนไลน์ก็ช่วยให้ผู้เรียนเริ่มต้นเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและสามารถทำความเข้าใจวิธีการใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้ประสบความสำเร็จในการสมัครงาน

4. AI กับวิทยาการคอมพิวเตอร์

เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เรียนที่จะต้องคิดอย่างมีวิจารณญาณเกี่ยวกับหลักสูตรที่พวกเขากำลังเรียน ว่ามีความแตกต่างจากหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์มาตรฐานอย่างไร เส้นทางอาชีพที่น่าจะเป็นไปได้ของผู้สำเร็จการศึกษา และผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจสำหรับผู้สำเร็จการศึกษา

เนื่องจากใครๆ ก็สามารถตีตราคำว่า 'AI' ลงบนผลิตภัณฑ์ใดๆที่มีอยู่ก็ได้ ผู้เรียนควรถามว่าพวกเขาจะได้เรียนรู้ด้าน AI อะไรบ้าง

สิ่งสำคัญคือผู้เรียนจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการ พวกเขากำลังมองหาหลักสูตรที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ AI หรือฝึกฝนการใช้ AI หรือพวกเขาต้องการโปรแกรมทางเทคนิคที่ให้เนื้อหาพื้นฐานและหลักสูตรเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI หรือไม่?

และควรพิจารณาด้วยว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเขาต้องการทักษะและความรู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งจะนำพวกเขาเข้าสู่ตลาดแรงงานในขณะนี้ หรือว่าพวกเขาต้องการปริญญาที่กว้างขึ้นซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับความก้าวหน้าในระยะยาว

แม้จะยังไม่มีใครรู้จริงๆ เลยว่าหลักสูตรด้าน AI ดังกล่าว จะมีมูลค่าเท่าใดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ผู้เรียนควรพิจารณาเข้าเรียนวิชาที่เกี่ยวข้องกับ AI และวิทยาศาสตร์ข้อมูล ซึ่งอาจมีความสำคัญต่อการจ้างงานในอนาคต และจำเป็นต้อง ติดตามความเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงของวิทยาการด้าน AI เพื่อเพิ่มพูนทักษะอย่างต่อเนื่อง

ที่มา

• CNBC
• PHOTO : REUTERS