เปิดไอเดีย เทคโนโลยี จะทำให้ “อาหารไทย” เป็น Soft Power ที่สู้กับนานาชาติได้อย่างไร ? พร้อมทำให้อาหารไทยมีมูลค่าเทียบเท่าเมนูต่างชาติ
อาหารไทย หนึ่งในสิ่งที่ชาวต่างชาติมักจะเดินทางมาเพื่อลิ้มลองอยู่เสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คืออาหารไทยยังขาดการนำเสนอประสบการณ์ (Experience) ในการรับประทานที่ไม่มีวันลืม เพราะอาหารญี่ปุ่นเองก็ยังมี สิ่งที่นำเสนอประสบการณ์ต่าง ๆ อย่าง Omakase หรือ Fine Dining
SPRiNG Tech มีโอกาสได้ทดลองประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยที่ใช้เทคโนโลยีนำเสนอและมอบประสบการณ์ Experience Dining ที่เชื่อว่าจะทำให้อาหารไทยสามารถสร้างมูลค่าและประสบการณ์ทัดเทียมต่างชาติได้ กับร้านอาหารชื่อ ARTLICIOUS Restaurants ที่ร่วมกับ ร้าน LE LAPIN Bangkok ใกล้แยกคลองตัน
สิ่งที่ ARTLICIOUS เชื่อว่าจะสามารถส่งอาหารไทยให้มีมูลค่าและประสบการณ์ทัดเทียมนานาชาติ คือ เทคโนโลยี Projection mapping ที่ใช้กราฟิกฉายผ่านโปรเจคเตอร์ลงมาสู่จานอาหารให้คนทานมีประสบการณ์มากกว่าแค่ทานข้าว
ARTLICIOUS ใช้สิ่งที่คนไทยถนัด คือ Storytelling และ Computer Graphics ที่มีคนไทยฝีมือระดับโลกที่ทำงานให้กับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อยู่เบื้องหลัง เพื่อมานำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารด้วยเทคโนโลยี Projection mapping ราคา 2,900 บาท/คน
หนึ่งในเมนูที่มีโอกาสได้ลิ้มลองคือ หมูโสร่ง หรุ่ม และม้าฮ่อ ซึ่งเป็นอาหารไทยที่ได้รับการพูดถึงจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส และใช้โปรเจกเตอร์ฉายกราฟฟิกใบพลูกำลังกลางออกเสมือนเนรมิตอาหารไทยขึ้นมาแล้วเล่าเรื่องด้วยเทคโนโลยี นอกจากนี้ แกงเหงาหงอด กุ้ง แม่น้ำเผา มะม่วงน้ำปลาหวาน และ ขนมหวานรูปดอกปาริชาติ
เมนูอาหารเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ The Taste of Bhuppae Sanniwat Immersive Experience Fine Dining ที่จะแบ่งปันประสบการณ์ความอร่อย จากเชฟแก้ว และเชฟผึ้ง มาสเตอร์เชฟคนแรกของเมืองไทย
นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าอาหารไทยและสตรีทฟู๊ดไทย ที่ต่างชาตินิยม แต่มูลค่าต่อจานมีราคาที่ไม่สูงกลายเป็นอาหารไทย ที่ราคา และประสบการณ์ทัดเทียมต่างชาติได้
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง