Apple พัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่แบบอัตโนมัติ (รถยนต์ไร้คนขับ Apple Car) มาเกือบทศวรรษแล้ว แต่ต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่ว่าวิสัยทัศน์ในการสร้างรถยนต์ที่ไม่มีพวงมาลัยนั้นยังเป็นไปไม่ได้ จึงปรับลดคุณสมบัติการขับขี่อัตโนมัติลง และเลื่อนการเปิดตัว Apple Car ถึงปี 2028
Bloomberg รายงานว่า ขณะนี้ Apple ตั้งเป้าที่จะเลื่อนการเปิดตัว "รถยนต์ไร้คนขับ" ของตัวเองออกไปเป็นปี 2028 แล้วหลังเปิดตัว Project Titan มานานนับทศวรรษ แต่ยังไม่เคยผลิตรถยนต์ที่ใช้งานออกมาได้จริง
บริษัทได้ปรับเปลี่ยนเป้าหมายในการสร้างรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ โดยปรับลดจากระบบขับขี่ด้วยตนเองจากระดับ 4 ที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรกลงไปเป็นระบบระดับ 2+ ที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น ซึ่งจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของ Apple สอดคล้องกับความสามารถที่ของรถยนต์ไฟฟ้าเจ้าอื่น โดยเฉพาะ Tesla
ระบบอัตโนมัติระดับ 2+ หมายถึงต้องให้ผู้ขับขี่คอยเอาใจใส่และเตรียมพร้อมที่จะควบคุมเมื่อจำเป็น คล้ายกับระบบออโต้ไพลอตปัจจุบันของ Tesla การเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งนำรถยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาด หลังจากเผชิญกับความล้มเหลว และการลาออกของผู้บริหารหลายคนนับตั้งแต่เริ่มโครงการ
Project Titan ซึ่งเป็นการรุกของ Apple ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2015 มุ่งเป้าไปที่การผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องใช้พวงมาลัย อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงของการบรรลุเป้าหมายระดับสูงมากขนาดนั้น ทำให้ Apple ต้องประเมินแนวทางของตนใหม่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากต้องเผชิญข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี และข้อบังคับของกฎหมายในแต่ละประเทศ
Bloomberg กล่าวว่าคณะกรรมการของ Apple ได้กดดัน Cook เมื่อปีที่แล้วให้จัดทำแผนสำหรับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Project Titan หรือไม่ก็ตัดโครงการทั้งหมดทิ้งไป ซึ่งการที่ Kevin Lynch รองประธานของ Apple ซึ่งขึ้นเป็นผู้นำ Project นี้ในปี 2021 ตั้งเป้าที่จะวางจำหน่ายในปี 2028 ด้วยการปรับลดคุณสมบัติที่มีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่ Apple จะสามารถอัปเกรดระบบเมื่อเวลาผ่านไปด้วยการอัพเดตซอฟต์แวร์ และในขณะที่สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบระหว่างประเทศมีการพัฒนามากขึ้น
ที่มา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง