การลงทุนหนึ่งพันล้านเหรียญด้าน AI ที่ Apple ใส่ไว้ใน Macbook Pro
การเปิดตัวสินค้า Macbook Pro ของ Apple ที่มีการใส่ AI เข้าไปบนชิป M3, M3 Pro และ M3 Max โดยใส่ไปใน Neural Engine ที่เพิ่มความเร็วให้กับระบบอันทรงพลัง ทำให้เครื่องทำงานเร็วขึ้น 60% เมื่อเทียบกับชิปตระกูล M1
ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า Apple เดินหน้าลงทุนตามเทรนด์เทคโนโลยีหลายอย่าง เพื่อสู้กับคู่แข่งให้ทัน ไม่ว่าจะเป็น การปรับปรุง Siri, iMessage และ Apple Music เพื่อให้การทำงานที่ดีขึ้น
โดย ทิม คุก ใช้เงินลงทุนเพิ่มอีกกว่า 1,000 ล้านเหรียญหรือประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท โดยเสริมเงินทุนให้แก่ทีม AI เพื่อพัฒนาในแต่ละด้านของผลิตภัณฑ์ของ Apple ให้โดดเด่นและน่าสนใจกว่าคู่แข่งในตลาดทุกด้าน
แม้จะมีการลงเงินทุนไปแล้วกว่า 3,120 ล้านเหรียญก็ดูเหมือนยังไม่มากพอ คาดว่า Apple จะใส่เงินไปในด้านของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไม่น่าจะต่ำกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ชิป M3 ที่ใส่ AI เข้าไปช่วยเรื่องความเร็ว
สำหรับชิปแต่ละตัวในตระกูล M3 นั้น มาพร้อมสถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบรวม เป็นเครื่องยืนยันถึงความเยี่ยมยอดของ Apple Silicon ทั้งในด้านแบนด์วิดท์ที่สูง ความหน่วงต่ำ และการประหยัดพลังงาน
เพราะการมีหน่วยความจำรวมอยู่ในที่เดียวภายในแพ็กเกจแบบเฉพาะ ทำให้เทคโนโลยีทั้งหมดในชิปสามารถเข้าถึงข้อมูลตัวเดียวกันได้ โดยไม่ต้องคัดลอกข้อมูลไปมาระหว่างหน่วยความจำหลายชุด ช่วยยกระดับประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานไปอีกขั้น ทั้งยังลดขนาดหน่วยความจำที่ระบบต้องใช้สำหรับการทำงานโดยส่วนใหญ่ด้วย
นอกจากนี้ การรองรับหน่วยความจำสูงสุดถึง 128GB ยังเป็นการปลดล็อคเวิร์กโฟลว์ที่ไม่เคยทำได้มาก่อนบนแล็ปท็อป อย่างนักพัฒนา AI ที่ต้องทำงานกับโมเดลแบบทรานสฟอร์เมอร์ที่มีหลายพันล้านพารามิเตอร์
ชิปที่ใส่โมเดลการเรียนรู้ของระบบ ML
การพัฒนาชิป M3, M3 Pro และ M3 Max ของ Apple นี้ มี Neural Engine ที่ดียิ่งขึ้นเพื่อเร่งความเร็วให้กับโมเดลด้านการเรียนรู้ของระบบ Machine Learning ทรงพลังขึ้นกว่าเดิม
โดยที่ Neural Engine เร็วขึ้นสูงสุด 60% เมื่อเทียบกับชิปตระกูล M1 ทำให้เวิร์กโฟลว์ด้าน AI หรือ ML เร็วยิ่งขึ้นโดยที่ข้อมูลยังคงอยู่บนอุปกรณ์เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเครื่องมือประมวลผลภาพด้วย AI อันทรงพลัง การลดนอยซ์และ Super Resolution ใน Topaz ทำงานได้เร็วขึ้น
ส่วนการตรวจจับ Scene Edit ใน Adobe Premiere และ Smart Conform ใน Final Cut Pro ก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ชิปทั้ง 3 ตัวในตระกูล M3 ยังมาพร้อมมีเดียเอนจิ้นอันล้ำสมัยเพื่อเร่งความเร็วให้กับ Codec วิดีโอยอดนิยมด้วยฮาร์ดแวร์ อย่าง H.264, HEVC, ProRes และ ProRes RAW ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่มีเดียเอนจิ้นรองรับการถอดรหัส AV1 จึงสามารถเล่นบริการสตรีมมิ่งได้อย่างประหยัดพลังงานเพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
