นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10000 บาท ของรัฐบาล มีการใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีหลายคำ ที่ฟังตามข่าวแล้วอาจจะสับสนกันได้
นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถือว่าเป็นหนึ่งในการกระจายเงินเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนและมีเงินทุนไม่เพียงพอต่อการหาเลี้ยงชีพ
ทั้งนี้ คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายดังกล่าว มีหลายคำที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น
เงินดิจิทัล (นโยบาย)
นโยบายเงินดิจิทัล เป็นโครงการที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ เพื่อแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น แอปฯ ที่รัฐบาลพัฒนาขึ้น หรือ แอปฯ ที่มีอยู่แล้วซึ่งแตกต่างกับสกุลเงินดิจิทัล
ทั้งนี้ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังมีเรื่องของสกุลเงินและความเกี่ยวข้องด้านเทคโนโลยีอีก ไม่ว่าจะเป็น
สกุลเงินดิจิทัล
เป็นสกุลเงินที่ไม่ได้ออกโดยธนาคารกลางของรัฐ แต่มีการใช้ 'บล็อกเชน' เป็นตัวสร้างความน่าเชื่อถือและมูลค่าในการใช้จ่าย โดยสกุลเงินยอดนิยม เช่น BITCOIN , Ethereum , DogeCoin แต่สำหรับประเทศไทยต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐก่อนจึงจะสร้างได้
บล็อกเชน (Blockchain)
ระบบจัดเก็บข้อมูล ที่เก็บและเชื่อมโยงข้อมูลไว้หลายที่พร้อม ๆ กัน ซึ่งจะมีการตรวจสอบหลายขั้นตอน จึงไม่สามารถมีใครคนใดคนหนึ่งกดลบข้อมูลจากระบบเองได้ ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง ยกเว้นโกงกันทั้งระบบซึ่งเป็นไปได้ยาก
ทั้งนี้ นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังเกี่ยวข้องในเรื่องของการใช้สกุลเงินและกระเป๋าเงินอัจฉริยะด้วย
ดิจิทัลวอลเล็ต
เป็นชื่อเรียกภาษาอังกฤษของ "กระเป๋าเงินดิจิทัล" ที่ใช้แอปพลิเคชันในการเป็นกระเป๋าเงินบนโทรศัพท์มือถือ และเงินที่เก็บในกระเป๋าแบบนี้ จะเลือกเป็นการโอนเงินเข้าไปในวอลเล็ตหรือหักบัญชีจากบัตรเครดิตเพื่อเติมเงินเข้าไปในบัญชี เพื่อนำไปใช้สอยแทนการพกเงินสด เช่น เป๋าตัง ทรูวอลเล็ต แกร็บวอลเล็ต เป็นต้น
ซูเปอร์แอปพลิเคชัน
เป็นหนึ่งในคำเรียกแบบเต็มๆ ของ Super App ซึ่งเป็นการรวบรวมฟีเจอร์ที่หลากหลายไว้ใช้งานผ่านแอปเดียว เช่น Grab LINEMAN Robinhood ที่มีการให้บริการสั่งอาหาร ซื้อของ จองที่พัก เรียกรถ ส่งสินค้าและ ชำระเงิน มีหลายบริการที่ทำได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้บริการจากแอปอื่น
นอกจากนี้ ยังมีคำอื่นๆ ให้ได้ยินอีกมาก เช่น คริปโทเคอเรนซี ก็เป็นชื่อสกุลของเหรียญ
คริปโทเคอเรนซี (Cryptocurrency)
สินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกับสกุลเงินทั่วไป แต่ไม่สามารถจับต้องได้ ดังนั้น จึงมีความเชื่อมโยงกับ บิทคอยน์ และ โทเคน ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มเหรียญที่สั่งซื้อได้ โดยจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม ศัพท์การใช้ในวงการเทคโนโลยีด้านการเงินไม่ใช่เรื่องยาก แต่มีคำเรียกที่หลากหลายและความเชื่อมโยงกัน ดังนั้น จดจำคำเหล่านี้ไว้ เวลาเจอในข่าวจะได้ไม่สับสน
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม